Shopping Cart

ไม่มีสินค้าในตะกร้า

สายเฮลธ์ตี้ต้องรู้! โปรตีนและโพรไบโอติกส์ กินแล้วให้ผลดีแค่ไหน?

สำหรับใครก็ตามที่ใส่ใจสุขภาพ ไม่ว่าจะออกกำลังกาย กินอาหารคลีน หรือเพียงแค่ใส่ใจในระบบย่อยอาหาร โปรตีนและโพรไบโอติกส์อาจมีบทบาทสำคัญ ในกิจวัตรประจำวัน 

แต่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าหากรับประทานโปรตีนและโพรไบโอติกส์ร่วมกัน จะมีประสิทธิภาพ หรือมีประโยชน์มากน้อยอย่างไร

โพรไบโอติกส์ คืออะไร

โพรไบโอติกส์เป็นจุลินทรีย์ที่มีชีวิต ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแบคทีเรียและยีสต์ ที่มีประโยชน์ต่อระบบย่อยอาหาร โพรไบโอติกส์มักเรียกกันว่า “แบคทีเรียที่ดี” ช่วยปรับสมดุลแบคทีเรียตามธรรมชาติในลำไส้ พบได้ในอาหารหมัก เช่น โยเกิร์ต กิมจิ ซาวเคราต์ คีเฟอร์ และในรูปแบบอาหารเสริม

สิ่งสำคัญที่ต้องทราบคือโพรไบโอติกส์แต่ละชนิดไม่ได้ทำงานเหมือนกันหมด มีสายพันธุ์ที่แตกต่างกันมากมาย และแต่ละชนิดก็มีหน้าที่เฉพาะของตัวเอง ตัวอย่างเช่น แลคโตบาซิลลัส แรมโนซัส ขึ้นชื่อในเรื่องการเพิ่มภูมิคุ้มกัน บรรเทาลำไส้แปรปรวน และลดอาการท้องเสีย ในขณะที่บิฟิโดแบคทีเรียม เบรฟ เกี่ยวข้องกับการลดอาการท้องผูกและเสริมภูมิคุ้มกัน

ซึ่งหมายความว่าประสิทธิภาพของโพรไบโอติกส์ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ที่เลือกและเป้าหมายด้านสุขภาพเฉพาะส่วนบุคคล ไม่ว่าจะเป็นระบบย่อยอาหาร ภูมิคุ้มกัน อารมณ์ หรือผิวหนัง ควรดูสายพันธุ์ที่ระบุอยู่ในฉลากผลิตภัณฑ์เสมอ

โดยสายพันธุ์ที่ใช้งานทั่วไปได้แก่

  • แล็กโทบาซิลลัส (Lactobacillus) ช่วยในการย่อยแลคโตสและช่วยรักษาการอักเสบของลำไส้
  • บิฟิโดแบคทีเรียม (Bifidobacterium) เสริมสร้างเยื่อบุลำไส้และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
  • ซัคคาโรไมซีส บูลาร์ดี (Saccharomyces boulardii) ยีสต์ที่มีประโยชน์ซึ่งช่วยบรรเทาอาการท้องเสียและรักษาเสถียรภาพของลำไส้
โปรตีนและโพรไบโอติกส์ กินต่างเวลาก็เวิร์กได้ เพราะทั้งสองมีหน้าที่ต่างกันในร่างกายและกลไกการดูดซึมที่แตกต่างกัน โดยโปรตีนเป็นสารอาหารหลักที่จำเป็นต่อการเสริมสร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อ

โปรตีนกับโพรไบโอติกส์ กินต่างเวลาก็เวิร์กได้

การบริโภคโปรตีนและโพรไบโอติกส์ภายในวันเดียวกันสามารถทำได้อย่างปลอดภัย เพราะทั้งสองมีหน้าที่ต่างกันในร่างกายและกลไกการดูดซึมที่แตกต่างกัน โดยโปรตีนเป็นสารอาหารหลักที่จำเป็นต่อการเสริมสร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ขณะที่โพรไบโอติกส์คือจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อระบบทางเดินอาหารและลำไส้ การเว้นช่วงเวลาในการรับประทานระหว่างโปรตีนและโพรไบโอติกส์ (แม้คนละเวลา) ไม่มีผลเสีย และยังสนับสนุนกันได้ดีในแง่ของสุขภาพโดยรวม

ประโยชน์ของโปรตีนกับโพรไบโอติกส์ กินร่วมกันช่วยเรื่องอะไรบ้าง?

1. การย่อยโปรตีนที่ดีขึ้น

โพรไบโอติกส์ โดยเฉพาะสายพันธุ์โปรตีโอไลติก (Proteolytic) สามารถช่วยย่อยโปรตีนให้เป็นกรดอะมิโน ทำให้ร่างกายดูดซึมและใช้ประโยชน์จากสารอาหารได้ง่ายขึ้น

2. ลดอาการท้องอืดและความไม่สบายตัว

การรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง โดยเฉพาะเวย์หรือเคซีน อาจทำให้เกิดแก๊ส ท้องอืด หรืออาหารไม่ย่อยในบางคน โพรไบโอติกส์ช่วยรักษาสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ จึงลดผลข้างเคียงที่ไม่สบายตัวเหล่านั้นได้

3. ฟื้นฟูกล้ามเนื้อให้ดีขึ้น

โปรตีนช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และโพรไบโอติกส์ช่วยเรื่องการดูดซึมสารอาหาร ส่งเสริมการฟื้นตัวและพลังงานโดยอ้อม

4. ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดีขึ้น

โพรไบโอติกส์ช่วยสนับสนุนภูมิคุ้มกันผ่านทางลำไส้ ในขณะที่โปรตีนช่วยสนับสนุนเซลล์ภูมิคุ้มกัน เมื่อนำมารวมกันก็จะช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของคุณยืดหยุ่นและตอบสนองได้ดีขึ้น

ช่วงเวลาที่ควรกิน โปรตีนและโพรไบโอติกส์ ? โปรตีนควรรับประทานภายใน 30 นาทีหลังออกกำลังกาย โพรไบโอติกส์ ควรรับประทานขณะท้องว่าง

ช่วงเวลาที่ควรกินโปรตีนและโพรไบโอติกส์?

โปรตีนควรรับประทานภายใน 30 นาทีหลังออกกำลังกายเพื่อซ่อมแซมกล้ามเนื้อ หรือรับประทานหลังจากตื่นนอน เพื่อเสริมโปรตีนที่ได้ซ่อมแซมกล้ามเนื้อในระหว่างที่นอนหลับ

โพรไบโอติกส์ ควรรับประทานขณะท้องว่าง (เช่น ในตอนเช้าหรือก่อนนอน) เพื่อการอยู่รอดจากกรดในกระเพาะได้ดีที่สุดหรือหลังอาหาร 1 ชั่วโมง

กินโปรตีนแล้วท้องอืด โพรไบโอติกส์ช่วยได้ไหม?

ช่วยได้แน่นอน เนื่องจากโปรตีนบางชนิด โดยเฉพาะจากแหล่งผลิตภัณฑ์นม เช่น เวย์ อาจส่งผลกระทบต่อกระเพาะ ทานแล้วมีอาการท้องอืด, มีแก๊สในกระเพาะ, ท้องผูกหรือท้องไม่ปกติ 

โพรไบโอติกส์สามารถช่วยฟื้นฟูสมดุลในลำไส้ ช่วยในการย่อยอาหาร และลดการอักเสบที่ก่อให้เกิดอาการท้องอืด 

โดยเลือกรับประทานสายพันธุ์ที่ช่วยในเรื่องการท้องอืด ได้แก่

  • แลคโตบาซิลลัส พลานทารุม (Lactobacillus plantarum) ช่วยลดอาการท้องอืด
  • บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กติส (Bifidobacterium lactis) ช่วยในการย่อยผลิตภัณฑ์นมและโปรตีน
  • ซัคคาโรไมซีส บูลาร์ดี (Saccharomyces boulardii) ทำให้ลำไส้คงที่หลังจากรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง

เคล็ดลับกินโปรตีนให้ได้ผลเต็มที่ ด้วยตัวช่วยจากโพรไบโอติกส์

  • เลือกโปรตีนที่ย่อยง่าย เวย์ไฮโดรไลซ์ โปรตีนจากพืช หรือไข่ขาว ที่ดีต่อกระเพาะอาหารมากกว่า
  • จับคู่กับอาหารที่มีประโยชน์ต่อระบบย่อยอาหาร หลีกเลี่ยงการจับคู่กับอาหารที่มีไขมันสูงหรืออาหารทอด ซึ่งจะทำให้ย่อยช้า
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ น้ำจะช่วยชะล้างผลพลอยได้จากการเผาผลาญโปรตีน
  • อย่าทานโปรตีนมากเกินไป ควรแบ่งปริมาณโปรตีนที่รับประทาน ให้ได้ตลอดทั้งวัน (20–30 กรัมต่อมื้อ)
  • รับประทานโพรไบโอติกส์อย่างสม่ำเสมอ ความสม่ำเสมอเป็นปัจจัยสำคัญต่อสมดุลของลำไส้ 
  • ลองผสมโปรตีนที่ผ่านการหมัก บางยี่ห้อผสมโพรไบโอติกส์เข้ากับโปรตีนพืชที่ผ่านการหมักเพื่อให้ย่อยง่ายขึ้นและช่วยบำรุงลำไส้

เลือกโพรไบโอติกส์แบบไหนดี ถ้ากินโปรตีนทุกวัน?

หากรับประทานโปรตีนทุกวัน ไม่ว่าจะในรูปแบบโปรตีนเชค โปรตีนใส เนื้อสัตว์ หรือโปรตีนจากพืช จุลินทรีย์ในลำไส้จะทำงานตลอดเวลา เพื่อย่อยและดูดซึมสารอาหาร การเลือกโพรไบโอติกส์ที่เหมาะสมจะช่วยสนับสนุนกระบวนการนี้และบรรเทาความเครียดในระบบย่อยอาหารได้ 

1. เลือกโพรไบโอติกส์ที่ผสมหลายสายพันธุ์เข้าด้วยกัน 

เนื่องจากแต่ละสายพันธุ์มีบทบาทที่แตกต่างกันในการย่อยอาหาร องค์ประกอบที่กว้างขึ้นจะเพิ่มโอกาสในการปรับปรุงความสมดุลของลำไส้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สายพันธุ์ที่แนะนำ:

  1. แลคโตบาซิลลัส พลานทารุม (Lactobacillus plantarum)

สายพันธุ์นี้ขึ้นชื่อว่าช่วยลดแก๊สและอาการท้องอืด ช่วยในการย่อยโปรตีนและบรรเทาอาการอักเสบในลำไส้ ซึ่งพบได้ทั่วไปในผู้ที่กินโปรตีนสูง

  1. แลคโตบาซิลลัส แอซิดอฟิลัส (Lactobacillus acidophilus)

ยอดเยี่ยมสำหรับการย่อยผลิตภัณฑ์นมและเสริมสร้างสุขภาพภูมิคุ้มกัน เป็นสิ่งจำเป็นหากคุณกำลังรับประทานเวย์หรือโปรตีนเคซีน

  1. บิฟิโดแบคทีเรียม แล็กติส (Bifidobacterium lactis)

ช่วยในการดูดซึมสารอาหารและเสริมสร้างสุขภาพลำไส้ใหญ่ ช่วยย่อยทั้งผลิตภัณฑ์นมและสารประกอบอาหารที่ซับซ้อน ซึ่งอาจทำให้การย่อยอาหารช้าลง

  1. บาซิลลัส โคแอกกูแลนส์ (Bacillus coagulans)

สายพันธุ์ที่ยืดหยุ่นซึ่งอยู่รอดจากกรดในกระเพาะและไปถึงลำไส้ของคุณได้อย่างสมบูรณ์ เป็นที่ทราบกันดีว่าช่วยลดอาการท้องอืดและอาหารไม่ย่อยหลังรับประทานโปรตีน โดยเฉพาะในนักกีฬา

  1. ยีสต์โพรไบโอติกส์ (Saccharomyces boulardii)

ช่วยทำให้ระบบย่อยอาหารมีเสถียรภาพ โดยเฉพาะถ้าการบริโภคโปรตีนทำให้ลำไส้ไม่สมดุล ผิดปกติ หรือถ่ายเหลว

2. มองหาโพรไบโอติกส์ที่มีเอนไซม์ย่อยอาหาร

อาหารเสริมโพรไบโอติกส์คุณภาพสูงบางชนิดเสริมด้วยเอนไซม์โปรตีโอไลติกที่ย่อยโมเลกุลโปรตีนโดยตรง ซึ่งมีส่วนช่วยได้มาก หากบริโภคโปรตีน 30 กรัมหรือมากกว่าต่อมื้อ

ตัวอย่างเอนไซม์ที่ทำงานร่วมกับโพรไบโอติกส์เพื่อเร่งการย่อยโปรตีนและลดความเครียดในลำไส้ 

  • โบรมีเลน (Bromelain) สกัดจากสับปะรด ช่วยย่อยโปรตีนและลดการอักเสบ
  • ปาเปน (Papain) สกัดจากมะละกอ ช่วยย่อยโปรตีนและช่วยให้ย่อยอาหารได้ราบรื่นขึ้น
  • โปรตีเอส (Protease) กลุ่มเอนไซม์ที่ทำงานตลอดทางเดินอาหารเพื่อย่อยโปรตีนให้เป็นกรดอะมิโน

3. จำนวนและความเสถียรของ CFU

มองหาผลิตภัณฑ์ที่มี CFU (colony-forming units) ที่เหมาะสมหากน้อยเกินไปอาจไม่ได้ผล และหากมากเกินไปก็ไม่ดีเสมอไป เว้นแต่จะเป็นการบริโภคภายใต้การดูแลของแพทย์

เลือกผลิตภัณฑ์ที่เก็บได้ในอุณหภูมิห้อง หรือผลิตภัณฑ์ที่ออกฤทธิ์ช้าซึ่งสามารถทนต่อกรดในกระเพาะได้ ทำให้มั่นใจได้ว่าโพรไบโอติกส์จะไปถึงลำไส้ได้จริง

ผลิตภัณฑ์ที่เก็บในอุณหภูมิห้องได้ มีความสะดวกมากกว่าแบบแช่เย็น สำหรับผู้ที่ต้องเดินทาง หรือมีกิจวัตรประจําวันที่เร่งรีบ

4.พรีไบโอติกส์ช่วยได้เช่นกัน

พรีไบโอติกส์คือใยอาหารที่ย่อยไม่ได้ซึ่งช่วยเลี้ยงแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้ สูตรโพรไบโอติกส์บางสูตรประกอบด้วยพรีไบโอติกส์ เช่น อินูลิน FOS (ฟรุคโตโอลิโกแซกคาไรด์) หรือรากชิโครี

ส่วนผสมพรีไบโอติกส์ ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมในลำไส้ที่ช่วยให้โพรไบโอติกส์เจริญเติบโตได้ ซึ่งสำคัญอย่างยิ่งหากรับประทานอาหารที่มีใยอาหารต่ำและโปรตีนสูง ซึ่งอาจไปรบกวนจุลินทรีย์ในลำไส้ได้

สายพันธุ์โพรไบโอติกส์ กับโปรตีนแต่ละรูปแบบ

ประเภทของโปรตีนปัญหาระบบย่อยอาหารที่อาจเกิดขึ้นสายพันธุ์โพรไบโอติกส์ที่มีประโยชน์
เวย์โปรตีน/เคซีนแพ้แลคโตส ท้องอืดL. acidophilusB. lactisB. coagulans
อาหารที่มีเนื้อสัตว์เป็นหลักลำไส้มีภาระหนักขึ้น มีแก๊สมากขึ้นL. plantarumL. rhamnosusProtease enzymes
โปรตีนจากพืชภาวะท้องอืด ท้องเฟ้อB. bifidumL. plantarumS. boulardii

Super You probiotics

ซูเปอร์ เคลียร์ โปรไบโอ – โพรไบโอติกส์รูปแบบผง เก็บได้ในอุณหภูมิห้อง สามารถฉีกซองและรับประทานได้ทันทีโดยไม่ต้องผสมน้ำแล้วดื่มน้ำอุณหภูมิห้องตาม ช่วยปรับสมดุลลำไส้และระบบทางเดินอาหาร มาพร้อมโปรไบโอติกส์ 7 สายพันธุ์วิจัย 100,000 ล้าน CFU ต่อซอง และพรีไบโอติกส์ 3 สายพันธุ์วิจัย โดยจุลินทรีย์นำเข้าจากประเทศอเมริกาและประเทศญี่ปุ่น ไม่มีส่วนผสมของนม น้ำตาลและไขมัน รสลิ้นจี่ ม็อกเทล รับประทานง่าย อร่อย

ซูเปอร์ เคลียร์ โปรไบโอ พลัส 3เอ็กซ์ – อาหารเสริมสำหรับผู้มีปัญหาขับถ่ายยาก สายแข็ง ภูมิคุ้มกันตก เป็นโพรไบโอติกส์รูปแบบผง เก็บได้ในอุณหภูมิห้อง สามารถฉีกซองและรับประทานได้ทันทีโดยไม่ต้องผสมน้ำ แล้วดื่มน้ำตาม มาพร้อมโพรไบโอติกส์ 7 สายพันธุ์วิจัย 100,000 ล้าน CFU ต่อซอง พรีไบโอติกส์ 3 สายพันธุ์วิจัย และโพสไบโอติกส์ 3 สายพันธุ์วิจัย โดยจุลินทรีย์นำเข้าจากประเทศอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี และเดนมาร์ก ไม่มีส่วนผสมของนม น้ำตาลและไขมัน รสส้มเหมือนวิตามินซี รับประทานง่าย อร่อย  

สรุป: โปรตีนและโพรไบโอติกส์ กินแล้วให้ผลดีแค่ไหน?

การรับประทานโปรตีนและโพรไบโอติกส์ในชีวิตประจำวัน ไม่ได้ส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกาย แต่ยังมีประโยชน์หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการย่อยอาหารที่ดีขึ้น อาการท้องอืดลดลง และการดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น 

โปรตีนและโพรไบโอติกส์ สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างดี ไม่ว่าจะมีไลฟ์สไตล์แบบไหน จะเป็นคนทั่วไป นักกีฬา คนที่กำลังออกกำลังกาย หรือเป็นคนที่พยายามกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น ลองพิจารณาเพิ่มโพรไบโอติกส์เข้าไปในกิจวัตรประจำวัน โดยเฉพาะรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง โพรไบโอติกส์จะช่วยเรื่องความสบายร่างกายมากขึ้นแน่นอน