BE YOU, BE THE SUPER YOU
เป็นคุณในแบบที่ดีที่สุด
ออกกำลังกายแต่ไม่เฟิร์ม? อาจเพราะโปรตีนไม่พอ!

ทำไมออกกำลังกายแต่ไม่เฟิร์ม?
การออกกำลังกายเป็นเพียงหนึ่งในสามองค์ประกอบของการมีรูปร่างที่ดี อีกสองส่วนคือ การพักผ่อนที่เพียงพอ และ โภชนาการที่เหมาะสม หากออกกำลังกายหนักแต่ไม่ได้รับสารอาหารเพียงพอ ร่างกายจะไม่สามารถนำสารอาหารที่ไปซ่อมแซมกล้ามเนื้อที่สึกหรอ ส่งผลให้ไม่สามารถสร้างกล้ามเนื้อใหม่ หรือกระชับรูปร่างได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สาเหตุที่ทำให้ออกกำลังกายแต่ไม่เฟิร์ม เกิดได้จากหลายสาเหตุ คือ
- รับประทานอาหารน้อยเกินไป โดยเฉพาะโปรตีน
- กินแต่คาร์โบไฮเดรต ไม่มีแหล่งโปรตีนคุณภาพ
- พักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้ร่างกายฟื้นตัวช้า
- ขาดการวางแผนเรื่องโภชนาการร่วมกับโปรแกรมออกกำลังกาย
การ “เฟิร์ม” ไม่ได้หมายถึงแค่ลดน้ำหนัก แต่หมายถึงการลดไขมันและเพิ่มกล้ามเนื้ออย่างสมดุล ซึ่งโปรตีนคือองค์ประกอบหลักของกระบวนการนี้
โปรตีนมีบทบาทอย่างไรในการสร้างกล้ามเนื้อ?
โปรตีนเป็นหนึ่งในสารอาหารสำคัญที่ร่างกายต้องการ ประกอบด้วยหน่วยย่อยที่เรียกว่า กรดอะมิโน (Amino Acids) ซึ่งส่วนที่สำคัญที่สุดที่ร่างกายนำมาใช้ในการสร้างกล้ามเนื้อ ฮอร์โมน เอนไซม์ และเนื้อเยื่อต่าง ๆ
บทบาทหลักของโปรตีนในร่างกาย
- ซ่อมแซมกล้ามเนื้อที่เสียหายจากการออกกำลังกาย
การเล่นเวทหรือคาร์ดิโอทำให้กล้ามเนื้อเกิดแรงกระแทก และฉีกขาดระดับเล็กๆ โปรตีนจะเข้ามาฟื้นฟูและทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงกว่าเดิม
- สร้างกล้ามเนื้อใหม่ (Muscle Protein Synthesis)
เมื่อร่างกายมีโปรตีนเพียงพอ การสังเคราะห์โปรตีนใหม่ในกล้ามเนื้อจะมากกว่าการสลาย ส่งผลให้กล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น
- ควบคุมความหิว
โปรตีนช่วยให้อิ่มนาน ลดความอยากอาหาร ช่วยควบคุมน้ำหนักได้ดีกว่าคาร์บหรือไขมัน
- รักษามวลกล้ามเนื้อระหว่างลดน้ำหนัก
เมื่อควบคุมอาหาร หากได้รับโปรตีนน้อยเกินไป ร่างกายจะดึงกล้ามเนื้อมาใช้เป็นพลังงาน ส่งผลให้หุ่นไม่เฟิร์ม
สัญญาณที่บ่งบอกว่าร่างกายได้รับโปรตีนไม่เพียงพอ
เราสามารถสังเกตร่างกายเบื้องต้น ว่าร่างกายได้รับโปรตีนเพียงพอหรือไม่ โดยที่ไม่ต้องไปหาหมอ ตรวจร่างกาย หรือตรวจเลือด โดยสามารถดูได้จากอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับร่างกาย
- กล้ามเนื้อไม่กระชับ แม้ออกกำลังกายเป็นประจำ
- รู้สึกเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย ฟื้นตัวช้า
- หิวบ่อย โดยเฉพาะหลังออกกำลังกาย
- ผมร่วง ผิวแห้ง เล็บเปราะ
- มีภาวะบวมน้ำ กล้ามเนื้ออ่อนแรง
หากมีมากกว่า 2-3 ข้อ แปลว่าได้รับโปรตีนไม่เพียงพอต่อความต้องการพื้นฐานและระดับการออกกำลังกายที่กำลังทำอยู่
วิธีเลือกโปรตีนที่เหมาะสมสำหรับคนออกกำลังกาย
การเลือกแหล่งโปรตีนควรพิจารณาจาก
- คุณภาพของโปรตีน (ค่าการย่อยและการดูดซึม)
- ความเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และเป้าหมาย
- การแพ้หรือข้อจำกัดทางโภชนาการ
โปรตีนรับประทานได้จากหลายแหล่ง ทั้งจากอาหารธรรมชาติ และโปรตีนเสริม
- โปรตีนจากอาหารธรรมชาติ (อกไก่, ปลา, ไข่, ถั่ว)
แหล่งโปรตีน | ปริมาณโปรตีน ต่อ 100 กรัม | ข้อดี |
อกไก่ | 31 กรัม | ไขมันต่ำ ย่อยง่าย ราคาย่อมเยา |
ไข่ | 6 กรัม/ฟอง | มีกรดอะมิโนครบถ้วน ดูดซึมดี |
ปลา (เช่น แซลมอน, ปลาทู) | 20–25 กรัม | มีโอเมก้า-3 ช่วยลดการอักเสบ |
ถั่ว/เต้าหู้/ธัญพืช | 8–15 กรัม | เหมาะกับมังสวิรัติและผู้แพ้นม |
- โปรตีนเสริม (โปรตีนเวย์, โปรตีนพืช)
การเสริมโปรตีนด้วยผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปเป็นทางเลือกที่สะดวกสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมปริมาณโปรตีนอย่างแม่นยำ โดยเฉพาะหลังออกกำลังกายหรือในช่วงที่มีเวลาน้อย
- เวย์โปรตีน (Whey Isolate/Concentrate)
เวย์โปรตีน (Whey Protein) คือโปรตีนที่สกัดได้จากนมวัว โดยเป็นส่วนหนึ่งของของเหลวที่เหลือจากกระบวนการทำนมให้กลายเป็นชีส แล้วนำมาผ่านกระบวนการทำให้แห้งและเข้มข้นจนได้โปรตีนในรูปแบบผงที่สามารถละลายน้ำเพื่อชงดื่มได้
จุดเด่นของเวย์โปรตีนสำหรับคนออกกำลังกาย
ดูดซึมเร็ว เวย์โปรตีนสามารถดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้ภายใน 30–60 นาที เหมาะมากสำหรับการดื่มทันทีหลังออกกำลังกาย ซึ่งเป็นช่วง “anabolic window” หรือช่วงที่ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ดีที่สุด
กระตุ้นการสังเคราะห์โปรตีนในกล้ามเนื้อ เวย์มีกรดอะมิโนจำเป็น (Essential Amino Acids) ครบ โดยเฉพาะ Leucine ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นหลักของกระบวนการสร้างกล้ามเนื้อ (Muscle Protein Synthesis)
ช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ เมื่อดื่มร่วมกับการฝึกเวทเทรนนิ่ง เวย์โปรตีนช่วยเพิ่มขนาดและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ควบคุมน้ำหนักและไขมัน โปรตีนช่วยให้อิ่มนาน ลดการอยากของหวาน และยังช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อขณะลดไขมัน ทำให้รูปร่างเฟิร์ม ไม่เหี่ยวหรือหย่อนคล้อย
สะดวกและแม่นยำ ง่ายต่อการวัดปริมาณโปรตีนที่ต้องการ เช่น 1 สกู๊ปมาตรฐานให้โปรตีนประมาณ 20–25 กรัม สามารถนำไปชงกับน้ำหรือนมได้ทันที
- โปรตีนใสจากพืช (Plant-based Clear Protein):
โปรตีนใสจากพืชเป็นโปรตีนเสริม ในรูปแบบชงดื่มที่ใสเหมือนน้ำผลไม้ แตกต่างจากเวย์โปรตีนที่มักมีลักษณะข้นหรือครีมมี่ โปรตีนสกัดจากพืช เช่น ถั่วลันเตา ถั่วเหลือง ข้าวกล้อง หรือเมล็ดฟักทอง ผ่านกระบวนการแยกโปรตีนจนได้รูปแบบที่ละลายน้ำใส
มีจุดเด่นคือ ดื่มง่าย ไม่หนักท้อง มีเนื้อสัมผัสเบา เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบกลิ่นนมหรือเวย์แบบเดิม และสำหรับผู้แพ้นมวัว มังสวิรัติ หรือผู้ที่ต้องการความสดชื่นหลังออกกำลังกาย
จุดเด่นของโปรตีนใสจากพืชสำหรับคนออกกำลังกาย
ย่อยง่าย ไม่หนักท้อง โปรตีนใสจากพืชมีเนื้อสัมผัสเบา ใสเหมือนน้ำผลไม้ และไม่มีแลคโตส จึงเหมาะกับคนที่มีปัญหาในการย่อยนมหรือเวย์โปรตีนแบบข้น ไม่ทำให้แน่นท้อง ดื่มได้แม้หลังออกกำลังกายหนัก
เป็นมิตรกับผู้แพ้นมวัว และสาย plant-based ผลิตจากพืช เช่น ถั่วลันเตา ข้าวกล้อง ถั่วเหลือง หรือเมล็ดฟักทอง จึงเหมาะกับผู้ที่แพ้นมวัว ผู้ที่ทานเจ มังสวิรัติ หรือ flexitarian ที่เน้นพืชแต่ยังบริโภคโปรตีนเสริม
รสชาติดี สดชื่น เหมือนน้ำผลไม้ โปรตีนใสจากพืชมักมาในรสผลไม้ เช่น พีช เลมอน เบอร์รี ซึ่งต่างจากเวย์ที่ออกครีมมี่ ทำให้ดื่มง่ายระหว่างวัน เหมาะกับอากาศร้อน หรือคนที่ไม่ชอบเวย์รสชาติเข้มข้น เช่น ช็อกโกแลต วานิลลา
ช่วยเสริมโปรตีนได้โดยไม่เพิ่มแคลอรีมาก โปรตีนใสจากพืชหลายสูตรมีปริมาณน้ำตาลและไขมันต่ำหรือไม่มีน้ำตาล เหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก เสริมโปรตีนโดยไม่ต้องกังวลเรื่องพลังงานส่วนเกิน
เป็นทางเลือกโปรตีนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การผลิตโปรตีนจากพืชมี Carbon footprint ต่ำกว่าการผลิตโปรตีนจากสัตว์ ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เหมาะกับสายรักษ์โลก
ปริมาณโปรตีนที่แนะนำต่อวันสำหรับผู้ที่ออกกำลังกาย
- สำหรับคนออกกำลังกายทั่วไป
ผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำ โดยเฉพาะการวิ่งหรือเวทเทรนนิ่ง จะต้องได้รับโปรตีนมากขึ้นเพื่อเสริมสร้างและฟื้นฟูกล้ามเนื้อ โดยปริมาณที่แนะนำคือ 1.2 ถึง 2.2 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
- สำหรับคนเล่นกล้าม
สำหรับบุคคลที่ต้องการสร้างมวลกล้ามเนื้อ ควรบริโภคโปรตีนให้สูงขึ้น โดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 1.6 ถึง 2.2 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
วิธีรับประทานโปรตีนเพื่อให้ร่างกายเฟิร์มขึ้น
- แบ่งโปรตีนออกเป็น 4–5 มื้อย่อย เช่น มื้อหลัก 3 มื้อ + ของว่าง/โปรตีนเสริม 1–2 มื้อ เพื่อให้ร่างกายได้รับกรดอะมิโนอย่างสม่ำเสมอ
- กินโปรตีนภายใน 30 นาทีหลังออกกำลังกาย เพื่อเร่งการฟื้นตัวของกล้าม
- อย่าลืมกินโปรตีนในมื้อเช้า เพราะหลังอดอาหารขณะนอนหลับ ร่างกายต้องการโปรตีนอย่างมาก
- ผสมโปรตีนกับคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ข้าวกล้อง มันหวาน เพื่อสนับสนุนการดูดซึมและฟื้นฟูพลังงาน
- เสริมด้วยผักหลากสี เพื่อให้ได้วิตามินและแร่ธาตุที่ช่วยในกระบวนการสังเคราะห์โปรตีน เช่น วิตามิน B, แมกนีเซียม
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโปรตีนและการออกกำลังกาย
ออกกำลังกายทุกวันควรกินโปรตีนเท่าไหร่?
สำหรับคนออกกำลังกายทั่วไป ปริมาณที่แนะนำคือ 1.2 ถึง 2.2 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
สำหรับผู้ที่เล่นกล้าม โดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 1.6 ถึง 2.2 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
โปรตีนแบบไหนเหมาะกับคนออกกำลังกาย?
- โปรตีนใสจากพืชหรือเวย์โปรตีนเหมาะที่สุดหลังออกกำลังกาย
- ถ้าแพ้นมวัว หรือเป็นมังสวิรัติ ควรเลือกโปรตีนใสจากพืชที่มีกรดอะมิโนครบ
- สำหรับมือใหม่ แนะนำให้เริ่มจากโปรตีนจากอาหารธรรมชาติก่อน แล้วจึงเสริมโปรตีนในภายหลังหากไม่พอ
สามารถกินโปรตีนเสริมแทนมื้ออาหารได้หรือไม่?
สามารถกินแทนได้เป็นบางมื้อ โดยเฉพาะในช่วงที่เร่งรีบหรือหลังออกกำลังกาย แต่ไม่ควรแทนทุกมื้อ เพราะร่างกายยังต้องการสารอาหารอื่น ๆ จากอาหารอยู่ เช่น ใยอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุ
Super You โปรตีนใส
เป็นโปรตีนใสจากพืช 9 ชนิด ถั่วลันเตา เคล บรอกโคลี เชอร์รี่ทาร์ต ขมิ้นชัน เมล็ดกาแฟไม่คั่ว ชาเขียว บีทรูต และบลูเบอร์รี่ ที่สกัดด้วยกรรมวิธีไฮโดรไลเสต ทำให้สามารถกรองโปรตีนได้ละเอียดกว่า ช่วยลดปัญหาสำหรับคนที่ระบบย่อยอาหารไม่ค่อยดี แพ้นม แพ้แลคโตส แพ้กลูเตน แพ้ถั่วเหลืองหรือแพ้ไข่ เหมาะกับคนที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อ ดูแลหุ่น คนที่ดื่มโปรตีนแบบขุ่นไม่ได้ คนที่เบื่ออาหารและคนที่ชอบน้ำหวาน แต่ไม่อยากเสียสุขภาพ
1 ซอง มีโปรตีนสูงถึง 23 กรัม แคลลอรี่ต่ำเพียง 120 แคลลอรี่ ไม่มีน้ำตาล ไขมัน และคอเลสเตอรอล
มี Probiotics 5,000 ล้านตัว ช่วยให้การย่อยโปรตีนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ดูดซึมได้อย่างรวดเร็ว
ไม่มีนมถั่วเหลือง ไม่มีนมวัว ไม่มีแลคโตส ไม่กระตุ้นอินซูลิน (ผู้ป่วยเบาหวานสามารถทานได้) ปราศจากสารก่อภูมิแพ้
Super You ซูเปอร์ เคลียร์ โปรตีน มีทั้งหมด 8 รสชาติ
Jelly Muscat (เจลลี่ มัสแคท) – องุ่นเขียวเนื้อเจลลี่พันธุ์พิเศษ จากประเทศญี่ปุ่น
- Berry Booste (เบอร์รี่ บูสตี้) – เบอร์รี่นานาชนิด จากประเทศฝรั่งเศส
- Lemone Tea (เลมอน เน่ ที) – ชามะนาวแท้ๆ หอม และรสชาติกลมกล่อม
- O-Liang (โอเลี้ยง) – เข้มข้นถึงรสโอเลี้ยงแท้ ๆ (มีคาเฟอีน = กาแฟ 1 ช็อต)
- Yellow Herbal Flower (เก๊กฮวย หล่อฮังก๊วย) – หอม สดชื่น แก้ร้อนใน
- Red Sala Cider (น้ำแดง) – กลิ่นหอม หวานน้อย ชื่นใจ
- Cocoa (โกโก้) – นำเข้าจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เข้มข้น หวานน้อย
- Plum (บ๊วย) – สดชื่น ชุ่มคอ เปรี้ยว เค็ม หวาน ครบรส