ถั่วลันเตา ประโยชน์เพียบ! โปรตีนสูงช่วยบำรุงระบบขับถ่ายและผิวสวยสุขภาพดี

หลายคนอาจจะมองข้ามถั่วลันเตา (Green Peas) เป็นเพียงผักธรรมดา ๆ แต่จริง ๆ แล้ว ถั่วลันเตามีประโยชน์มากมายเกินกว่าที่คิด ถั่วเม็ดเล็ก ๆ สีเขียวสดใสนี้ เป็นทั้งผักและแหล่งโปรตีนคุณภาพสูงที่อุดมไปด้วยสารอาหารจำเป็น ไม่ว่าจะเป็นโปรตีน วิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหาร ที่จะช่วยดูแลสุขภาพของเราได้อย่างครอบคลุม

คุณค่าทางโภชนาการของถั่วลันเตา

ถั่วลันเตา 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 81 แคลอรี่ และเต็มไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์

  • โปรตีน 5.4 กรัม – สูงกว่าผักทั่วไป
  • คาร์โบไฮเดรต 14.5 กรัม
  • ใยอาหาร 5.7 กรัม
  • วิตามินเอ 765 IU
  • วิตามินซี 40 มิลลิกรัม
  • วิตามินเค 24.8 ไมโครกรัม
  • กรดโฟลิก 65 ไมโครกรัม
  • ธาตุเหล็ก 1.47 มิลลิกรัม
  • แคลเซียม 25 มิลลิกรัม
  • โพแทสเซียม 244 มิลลิกรัม

ประโยชน์ของถั่วลันเตา

  • อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ

ถั่วลันเตาอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี เบต้าแคโรทีน และฟลาโวนอยด์ ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบ และชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์

  • โปรตีนสูง สร้างกล้ามเนื้อ

ด้วยปริมาณโปรตีนที่สูงถึง 5.4 กรัมต่อ 100 กรัม ถั่วลันเตาจึงเป็นแหล่งโปรตีนจากพืชที่ดีเยี่ยม ช่วยในการสร้างและซ่อมแซมกล้ามเนื้อ เหมาะสำหรับผู้ที่ออกกำลังกายหรือต้องการเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ

  • ช่วยระบบขับถ่ายทำงานปกติ

ใยอาหารในถั่วลันเตามีมากถึง 5.7 กรัมต่อ 100 กรัม ช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร ทำให้การขับถ่ายเป็นปกติ ป้องกันปัญหาท้องผูก และช่วยเลี้ยงแบคทีเรียดีในลำไส้

  • บำรุงผิวพรรณให้ดูสุขภาพดี

วิตามินซีในถั่วลันเตาช่วยสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวกระชับ เรียบเนียน และลดเลือนริ้วรอย ขณะที่วิตามินเอช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิว ทำให้ผิวดูสดใส มีชีวิตชีวา

  • ช่วยควบคุมน้ำหนัก

ถั่วลันเตามีแคลอรี่ต่ำแต่อิ่มท้องนาน เนื่องจากมีโปรตีนและใยอาหารสูง ช่วยลดความรู้สึกหิวและควบคุมปริมาณอาหารที่รับประทาน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก

  • อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก

ธาตุเหล็กในถั่วลันเตาช่วยป้องกันและรักษาภาวะโลหิตจาง ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง และส่งออกซิเจนไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • ช่วยบำรุงกระดูก

วิตามินเค แคลเซียม และแมกนีเซียมในถั่วลันเตาช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก ป้องกันโรคกระดูกพรุน และรักษาความหนาแน่นของกระดูก

  • ช่วยบำรุงหัวใจ

โพแทสเซียมช่วยควบคุมความดันโลหิต ขณะที่ใยอาหารช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด

  • ป้องกันมะเร็งในช่องท้อง

สารต้านอนุมูลอิสระและใยอาหารในถั่วลันเตาช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ โดยช่วยกำจัดสารพิษและลดการอักเสบในระบบย่อยอาหาร

  • บำรุงสายตา

ลูทีนและซีแซนทีนในถั่วลันเตาช่วยป้องกันจอประสาทตาเสื่อม ลดความเสี่ยงต่อโรคต้อกระจก และช่วยบำรุงสายตาให้คมชัดยิ่งขึ้น

หากใครสนใจอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของถั่วลันเตาที่ช่วยให้ร่างกายได้รับโปรตีนต่อวันที่เพียงพอ พร้อมทั้งยังได้สารอาหารหลักครบถ้วน ทานง่าย สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและโปรโมชั่นได้ที่

ถั่วลันเตา ผสมผสานกับอาหารอื่น
หลีกเลี่ยงการปรุงรสจัด - เพื่อคงรสชาติธรรมชาติและประโยชน์เดิม ควรปรุงรสด้วยเกลือเล็กน้อย กระเทียม หรือสมุนไพร แทนการใส่ซีอิ๊ว น้ำตาล หรือน้ำมันมากเกินไป
ผสมกับธัญพืช - ทานถั่วลันเตาคู่กับข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต หรือเควินัว จะได้โปรตีนครบถ้วนทุกชนิดอะมิโนแอซิด เหมือนกับการทานเนื้อสัตว์

เคล็ดลับการทานถั่วลันเตาให้ได้ประโยชน์สูงสุด

  • การเลือกและเก็บรักษา

เลือกถั่วสดใหม่ – เลือกฝักที่เขียวสด อวบอิ่ม ไม่เหี่ยวเฉา เมื่อเขย่าจะได้ยินเสียงถั่วกระทบฝัก หลีกเลี่ยงฝักที่มีจุดด่างดำหรือเหลือง เก็บในตู้เย็นไม่เกิน 3-5 วัน จะคงความสดและสารอาหารไว้ได้ดีที่สุด

  • วิธีการประกอบอาหารที่เหมาะสม

หุงนึ่งแทนการต้ม – การนึ่งจะช่วยคงวิตามินซี วิตามินเค และกรดโฟลิกไว้ได้มากกว่าการต้ม หากต้องต้มให้ใช้น้ำเพียงเล็กน้อยและใช้เวลาสั้น ๆ ประมาณ 2-3 นาที เพื่อไม่ให้สารอาหารละลายออกมา

รับประทานพร้อมวิตามินซี – ทานถั่วลันเตาคู่กับผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม มะนาว หรือผักที่มีวิตามินซี เช่น พริกหวาน จะช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้นถึง 3-4 เท่า

  • เวลาและความถี่ในการรับประทาน

ทานในช่วงเช้าหรือกลางวัน – โปรตีนและใยอาหารในถั่วลันเตาจะช่วยให้อิ่มท้องนานและให้พลังงานตลอดวัน ควรทานสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ครั้งละ 100-150 กรัม

ทานแบบสด – ถั่วลันเตาสดมีเอนไซม์ที่ช่วยย่อยอาหารและสารอาหารครบถ้วนที่สุด สามารถล้างสะอาดแล้วทานดิบได้ หรือลวกเบา ๆ ให้สุกพอดี

  • การผสมผสานกับอาหารอื่น

หลีกเลี่ยงการปรุงรสจัด – เพื่อคงรสชาติธรรมชาติและประโยชน์เดิม ควรปรุงรสด้วยเกลือเล็กน้อย กระเทียม หรือสมุนไพร แทนการใส่ซีอิ๊ว น้ำตาล หรือน้ำมันมากเกินไป

ผสมกับธัญพืช – ทานถั่วลันเตาคู่กับข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต หรือเควินัว จะได้โปรตีนครบถ้วนทุกชนิดอะมิโนแอซิด เหมือนกับการทานเนื้อสัตว์

ข้อควรระวัง

  • กลุ่มผู้ที่ควรระมัดระวัง

ผู้ป่วยโรคไต – ควรระมัดระวังการรับประทานถั่วลันเตาในปริมาณมาก เนื่องจากมีโปรตีนสูงถึง 5.4 กรัมต่อ 100 กรัม ซึ่งอาจทำให้ไตต้องทำงานหนักขึ้น ผู้ป่วยโรคไตควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการเพื่อกำหนดปริมาณที่เหมาะสม

ผู้ที่มีภาวะกรดยูริกสูง – ถั่วลันเตามีสารพิวรีนค่อนข้างสูง ซึ่งอาจกระตุ้นให้ร่างกายสร้างกรดยูริกเพิ่มขึ้น ผู้ที่เป็นโรคเก๊าต์ควรทานในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่เกินวันละ 100 กรัม

  • ปฏิกิริยาแพ้และอาการข้างเคียง

อาการแพ้ถั่วลันเตา – บางคนอาจแพ้ถั่วลันเตา โดยจะมีอาการผื่นคัน บวม หรือมีปัญหาการหายใจ หากมีอาการแพ้ควรหยุดรับประทานทันทีและปรึกษาแพทย์ โดยเฉพาะผู้ที่เคยแพ้ถั่วชนิดอื่น ๆ ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ

ปัญหาทางเดินอาหาร – การทานถั่วลันเตาในปริมาณมาก ๆ ในครั้งเดียวอาจทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือแน่นท้อง เนื่องจากใยอาหารสูง ควรเริ่มทานในปริมาณน้อย ๆ ก่อน แล้วค่อย ๆ เพิ่มขึ้น

  • การเตรียมและความปลอดภัยของอาหาร

การล้างและเตรียม – ควรล้างถั่วลันเตาให้สะอาดด้วยน้ำไหลเพื่อกำจัดสารเคมีตกค้าง ดิน และเชื้อโรค หากซื้อแบบแช่แข็งควรละลายแข็งให้สมบูรณ์ก่อนปรุงอาหาร

การเก็บรักษา – ถั่วลันเตาสดควรเก็บในตู้เย็นและรับประทานให้หมดภายใน 3-5 วัน หลีกเลี่ยงการเก็บในที่ร้อนชื้น เพราะจะเสื่อมเสียและเกิดเชื้อราได้ง่าย

  • ปฏิสัมพันธ์กับยา

ยาต้านการแข็งตัวของเลือด – ถั่วลันเตามีวิตามินเคสูง ซึ่งอาจไปรบกวนฤทธิ์ของยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น วาร์ฟาริน ผู้ที่ใช้ยากลุ่มนี้ควรรับประทานถั่วลันเตาในปริมาณคงที่และปรึกษาแพทย์

แนะนำเมนูจากถั่วลันเตา

  • สลัดถั่วลันเตาสด

ผสมถั่วลันเตาสดกับมะเขือเทศ แตงกวา ใส่น้ำสลัดโยเกิร์ต อร่อยและได้สารอาหารครบ

  • ซุปถั่วลันเตา

ใส่ถั่วลันเตาในซุปผัก เพิ่มโปรตีนและความอร่อยให้กับมื้ออาหาร

  • แกงจืดถั่วลันเตา

ทำแกงจืดใส่หมูสับ ถั่วลันเตา และฟัก เมนูที่อร่อยและมีประโยชน์

  • ผัดถั่วลันเตากับกุ้ง

ผัดถั่วลันเตากับกุ้งสด ใส่กระเทียม พริกไทย อร่อยและได้โปรตีนครบ

ถั่วลันเตาที่เราพูดถึงตลอดบทความนี้ ไม่ได้มีดีแค่เป็นผักที่กินง่ายและให้โปรตีนสูงเท่านั้น แต่ยังถูกนำมาต่อยอดเป็นวัตถุดิบสำคัญของผลิตภัณฑ์สุขภาพสมัยใหม่ด้วย หนึ่งในนั้นคือ Super You โปรตีนใส เครื่องดื่มโปรตีนจากถั่วลันเตาที่พัฒนาให้ดื่มง่ายขึ้น เนื้อใส เบาสบาย ไม่ข้นหรือหนักท้องเหมือนโปรตีนทั่วไป

Super You โปรตีนใส

ถั่วลันเตาที่เราพูดถึงตลอดบทความนี้ ไม่ได้มีดีแค่เป็นผักที่กินง่ายและให้โปรตีนสูงเท่านั้น แต่ยังถูกนำมาต่อยอดเป็นวัตถุดิบสำคัญของผลิตภัณฑ์สุขภาพสมัยใหม่ด้วย หนึ่งในนั้นคือ Super You โปรตีนใส เครื่องดื่มโปรตีนจากถั่วลันเตาที่พัฒนาให้ดื่มง่ายขึ้น เนื้อใส เบาสบาย ไม่ข้นหรือหนักท้องเหมือนโปรตีนทั่วไป

1 ซอง มีโปรตีนสูงถึง 23 กรัม แคลลอรี่ต่ำเพียง 120 แคลลอรี่ ไม่มีน้ำตาล ไขมัน และคอเลสเตอรอล

มี Probiotics 5,000 ล้านตัว ช่วยให้การย่อยโปรตีนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ดูดซึมได้อย่างรวดเร็ว 

ไม่มีนมถั่วเหลือง ไม่มีนมวัว ไม่มีแลคโตส ไม่กระตุ้นอินซูลิน (ผู้ป่วยเบาหวานสามารถทานได้) ปราศจากสารก่อภูมิแพ้

การมีผลิตภัณฑ์แบบนี้จึงเป็นเหมือนสะพานเชื่อม ให้คนที่อยากได้รับคุณค่าจากถั่วลันเตามากขึ้นในทุกวัน สามารถเติมโปรตีนได้สะดวก โดยยังคงได้ประโยชน์ด้านการดูแลระบบย่อย การขับถ่าย และช่วยบำรุงผิวให้แลดูสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ

Super You ซูเปอร์ เคลียร์ โปรตีน มีทั้งหมด 8 รสชาติ