BE YOU, BE THE SUPER YOU
เป็นคุณในแบบที่ดีที่สุด
คอลลาเจนช่วยอะไร? ทำไมร่างกายต้องการ เลือกทานอย่างไรให้ได้ผลดี

คอลลาเจนเป็นคำที่หลายคนคุ้นหู โดยเฉพาะคนที่สนใจเรื่องผิวพรรณและสุขภาพ แต่จริง ๆ แล้วคอลลาเจนไม่ใช่แค่สารที่ทำให้ผิวสวยใสเท่านั้น มันยังเป็นส่วนประกอบสำคัญของร่างกายที่ช่วยให้ผิว ข้อต่อ กระดูก และอวัยวะต่าง ๆ ทำงานได้อย่างแข็งแรงและยืดหยุ่น
คอลลาเจนช่วยอะไร? ทำไมร่างกายต้องการ! เมื่อร่างกายมีคอลลาเจนในปริมาณที่เพียงพอ เราจะรู้สึกผิวแข็งแรง ดูอ่อนเยาว์และชุ่มชื้น นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยเรื่องกระดูกและข้อ ทำให้เคลื่อนไหวร่างกายได้คล่อง แต่ถ้าขาดคอลลาเจนไป หรืออายุเยอะขึ้น ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนได้น้อยลง อาจเริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ปวดข้อ
คอลลาเจนคืออะไร?
คอลลาเจน (Collagen) คือโปรตีนชนิดหนึ่งที่มีปริมาณมากที่สุดในร่างกาย คิดเป็นราว 1 ใน 3 ของโปรตีนทั้งหมด มีลักษณะเป็นเส้นใยที่แข็งแรงและยืดหยุ่น ทำหน้าที่คล้าย “โครงสร้าง” หรือ “กาวธรรมชาติ” ที่คอยเชื่อมอวัยวะและเนื้อเยื่อต่าง ๆ เข้าด้วยกัน
คอลลาเจนอยู่ในทุกส่วนของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นผิวหนัง กระดูก กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น กระดูกอ่อน รวมถึงหลอดเลือด จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่การขาดคอลลาเจนจะส่งผลกว้างขวางต่อทั้งสุขภาพร่างกายและความงาม
ประเภทของคอลลาเจนในร่างกาย
คอลลาเจนช่วยอะไร? ทำไมร่างกายต้องการ! คอลลาเจนมีอยู่หลายชนิด แต่จะมีอยู่ 3 ชนิดที่สำคัญและพบมากที่สุดในร่างกายคือ
- Type I – อยู่ในผิวหนัง กระดูก เอ็น และฟัน เป็นตัวหลักที่ทำให้ผิวเรียบเนียน กระดูกแข็งแรง และแผลหายเร็ว
- Type II – อยู่ในกระดูกอ่อนและข้อต่อ ช่วยให้เคลื่อนไหวได้อย่างราบรื่น ลดแรงกระแทก
- Type III – พบในผิว กล้ามเนื้อ และหลอดเลือด ช่วยให้เนื้อเยื่อมีความยืดหยุ่นและแข็งแรง
คอลลาเจนช่วยอะไรบ้าง?
คอลลาเจนช่วยอะไร? คอลลาเจนไม่ได้มีบทบาทแค่เรื่องความสวยความงาม แต่ยังมีประโยชน์สำคัญต่อสุขภาพโดยรวมอีกด้วย เรียกได้ว่าช่วยดูแลแทบจะทุกส่วนในร่างกาย ประโยชน์ที่เห็นได้ชัดของคอลลาเจนมีดังนี้
- บำรุงผิวพรรณ – ช่วยให้ผิวเต่งตึง กระชับ ลดเลือนริ้วรอย และคงความชุ่มชื้น
- เสริมสุขภาพข้อต่อ – ลดการเสียดสีของกระดูกอ่อน ทำให้เคลื่อนไหวได้ดีขึ้น
- ปกป้องกระดูก – ช่วยรักษาความหนาแน่นของกระดูก ลดความเสี่ยงกระดูกพรุน
- บำรุงผมและเล็บ – ลดปัญหาผมขาดหลุดร่วงและเล็บเปราะง่าย
- ช่วยซ่อมแซมร่างกาย – สนับสนุนกระบวนการสมานแผลและฟื้นฟูเนื้อเยื่อ
- ดูแลหัวใจและหลอดเลือด – ทำให้ผนังหลอดเลือดแข็งแรงและยืดหยุ่น
ทำไมร่างกายต้องการคอลลาเจน?
คอลลาเจนเป็นส่วนประกอบที่ร่างกายสร้างขึ้นเองได้จากกรดอะมิโน วิตามินซี และแร่ธาตุ แต่เมื่อเราอายุมากขึ้น โดยเฉพาะหลังอายุ 25 ปี ปริมาณคอลลาเจนจะลดลงเรื่อย ๆ ปีละประมาณ 1-2%
ปัจจัยอื่น ๆ ที่เร่งการสลายคอลลาเจน ได้แก่
- การโดนแดดบ่อย
- การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
- ความเครียดเรื้อรัง
- การทานอาหารที่มีน้ำตาลสูง

อาการขาดคอลลาเจน?
การขาดคอลลาเจนของคนเรา อาจไม่แสดงออกทันที แต่จะค่อยๆ แสดงอาการที่มองเห็นหรือรู้สึกได้ อาการขาดคอลลาเจนสามารถเกิดขึ้นได้ทีละน้อย และค่อยๆ สะสมจนร่างกายเริ่มแสดงอาการชัดเจนมากขึ้น โดยทั่วไปแล้ว หากมีอาการที่เกี่ยวข้องกับคอลลาเจน ตั้งแต่ 3 อาการขึ้นไปพร้อมกัน และเป็นต่อเนื่อง นานเกิน 2-3 เดือน โดยสามารถสังเกตุอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นดังนี้
- ผิวเริ่มเหี่ยวย่น หย่อนคล้อย หรือแห้งกร้าน
- มีปัญหาปวดข้อ ข้อตึง หรือเคลื่อนไหวติดขัด
- ผมหลุดร่วง เล็บเปราะหักง่าย
- แผลหรือรอยฟกช้ำหายช้า
- ร่างกายอ่อนเพลียและฟื้นตัวช้าหลังออกกำลังกายหรือเจ็บป่วย
วิธีการเลือกทานอาหาร ที่ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน?
การเลือกรับประทานอาหารที่ช่วยเสริมคอลลาเจน ไม่ใช่เพียงแค่ทานอาหารที่มีคอลลาเจนเท่านั้น แต่ควรรับประทานอาหารที่มีส่วนช่วยกันการสร้างและปกป้องคอลลาเจนด้วยเช่นกัน
- ทานอาหารที่มีวิตามินซีสูง เช่น ฝรั่ง ส้ม กีวี พริกหวาน ช่วยกระตุ้นเอนไซม์ที่ใช้สร้างคอลลาเจน
- ทานอาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 และ 6 เช่น ปลาแซลมอน ปลาทู อะโวคาโด ลดการอักเสบและปกป้องคอลลาเจน
- ทานอาหารโปรตีนสูง เช่น เนื้อปลา ไข่ขาว ถั่ว ช่วยให้ร่างกายมีวัตถุดิบเพียงพอในการสร้างคอลลาเจน
- ทานผักและผลไม้สีแดง เช่น มะเขือเทศ แตงโม พริกหยวกแดง อุดมด้วยไลโคปีนซึ่งช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวี
- กระดูกอ่อนและซุปกระดูก เป็นแหล่งคอลลาเจนตามธรรมชาติ
- ลดอาหารหวานจัด เนื่องจากน้ำตาลจะทำให้โครงสร้างคอลลาเจนแข็งและเสื่อมสภาพเร็ว

เลือกทานคอลลาเจนอย่างไรให้ได้ผลดี?
เมื่อเลือกผลิตภัณฑ์เสริมคอลลาเจน โปรดคำนึงถึงปัจจัยเหล่านี้
- ประเภทของคอลลาเจน เลือกประเภทที่ตรงกับความต้องการในการบำรุงของแต่ละบุคคล (ประเภท 1 และ 3 สำหรับผิวหนัง ประเภท 2 สำหรับข้อต่อ เป็นต้น)
- คอลลาเจนไฮโดรไลซ์ เลือกเปปไทด์ไฮโดรไลซ์หรือคอลลาเจนเพื่อการดูดซึมที่ดีขึ้น
- ส่วนผสมที่เพิ่มเข้ามา สูตรบางอย่างประกอบด้วยกรดไฮยาลูโรนิก ไบโอติน หรือวิตามินซีเพื่อประโยชน์ที่เพิ่มขึ้น
- แหล่งที่มาของคอลลาเจน ตัวเลือกจะเป็นแหล่งที่มาของสารสกัดคอลลาเจน ได้แก่ คอลลาเจนจากวัว คอลลาเจนจากปลา และคอลลาเจนจากไก่ คอลลาเจนจากทะเลมักนิยมใช้เพื่อประโยชน์ต่อผิวหนัง ในขณะที่คอลลาเจนจากวัวช่วยเสริมสร้างสุขภาพโดยรวม
- ความบริสุทธิ์และคุณภาพ เลือกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ไม่มีสารเติมแต่งหรือสารตัวเติมที่ไม่จำเป็น และมีตรวจสอบการทดสอบจากองค์กรที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ เพื่อรับประกันคุณภาพ
วิธีป้องกันไม่ให้คอลลาเจนในร่างกายลดลง?
แม้ร่างกายจะสร้างคอลลาเจนได้เอง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าพออายุเกิน 25 ปี กระบวนการสร้างคอลลาเจนจะเริ่มช้าลงเรื่อย ๆ และปัจจัยภายนอกหลายอย่างก็เร่งให้คอลลาเจนเสื่อมเร็วขึ้น ดังนั้น การดูแลป้องกันตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้ร่างกายเก็บ “คอลลาเจน” ไว้ได้นานขึ้น
1. ป้องกันผิวจากแสงแดด
รังสียูวีในแสงแดดเป็นตัวการสำคัญที่ทำลายโครงสร้างคอลลาเจนในผิว ทำให้ผิวหย่อนคล้อยและเกิดริ้วรอยก่อนวัย
- ใช้ครีมกันแดด SPF 30 ขึ้นไปทุกวัน แม้จะอยู่ในบ้านหรือวันฟ้าครึ้ม
- ใส่หมวกและเสื้อแขนยาวเมื่ออยู่กลางแจ้งนาน ๆ
- หลีกเลี่ยงการออกแดดช่วง 10.00 – 16.00 น. ที่รังสียูวีแรงที่สุด
2. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์
- บุหรี่ มีสารเคมีที่ทำให้หลอดเลือดหดตัว ส่งผลให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงผิวและเนื้อเยื่อลดลง ทำให้ร่างกายซ่อมแซมคอลลาเจนได้ช้าลง
- แอลกอฮอล์ ทำให้ร่างกายขาดน้ำ และกระตุ้นการอักเสบที่ทำลายคอลลาเจน
3. ลดการกินน้ำตาลและอาหารแปรรูป
น้ำตาลและอาหารที่มีค่า Glycemic Index สูงจะทำให้เกิดกระบวนการ Glycation คือการที่น้ำตาลไปจับกับคอลลาเจนจนแข็งและเปราะ ส่งผลให้ผิวเสียความยืดหยุ่น
- ลดขนมหวาน น้ำอัดลม เบเกอรี่ และอาหารฟาสต์ฟู้ด
- เลือกทานคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ข้าวกล้อง มันเทศ และธัญพืช
4. ทานอาหารที่ช่วยสร้างและปกป้องคอลลาเจน
- วิตามินซี – ฝรั่ง ส้ม กีวี ช่วยให้เอนไซม์ทำงานสร้างคอลลาเจนได้ดี
- โปรตีนคุณภาพสูง – ไข่ขาว เนื้อปลา ถั่ว
- กรดไขมันโอเมก้า 3 – ปลาแซลมอน ปลาทู อะโวคาโด ลดการอักเสบ
- สารต้านอนุมูลอิสระ – ผักผลไม้สีเข้ม เช่น บลูเบอร์รี ผักโขม ช่วยป้องกันการทำลายคอลลาเจนจากอนุมูลอิสระ
5. นอนหลับเพียงพอและพักผ่อนอย่างมีคุณภาพ
ช่วงเวลานอนเป็นช่วงที่ร่างกายซ่อมแซมเนื้อเยื่อและสร้างคอลลาเจน
- ควรนอนวันละ 7-9 ชั่วโมง
- เข้านอนและตื่นให้เป็นเวลา
- ลดการใช้โทรศัพท์หรือจอคอมก่อนนอนอย่างน้อย 30 นาที
6. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ทำให้สารอาหารและออกซิเจนส่งไปซ่อมแซมเนื้อเยื่อได้มากขึ้น
- เน้นการออกกำลังกายแบบแรงต้าน (Resistance Training) เพื่อกระตุ้นการสร้างโปรตีน
- เสริมด้วยคาร์ดิโอเพื่อให้ระบบไหลเวียนดี
7. ลดความเครียด
ฮอร์โมนคอร์ติซอลที่หลั่งเมื่อเราเครียดจะเร่งการสลายโปรตีนรวมถึงคอลลาเจน
- ฝึกหายใจลึก ๆ
- ทำสมาธิหรือโยคะ
- หาเวลาทำกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายจิตใจ
Super You Collagen
ซูเปอร์ เคลียร์ คอลลาเจน – คอลลาเจนที่ช่วยดูแลเรื่องผิว ผม เล็บ หน้า สิว ครบจบในซองเดียว การันตีด้วยมาตรฐานระดับสากลจากรางวัล Japan Beauty Awards 2023 งามในแบบฉบับคนญี่ปุ่น
ซูเปอร์ เคลียร์ คอลลาเจน มาพร้อมคอลลาเจน 3x คอมเพล็กซ์ ประกอบด้วย คอลลาเจน Type I ครบ 3 ชนิดทั้ง Dipeptine, Tripeptine และ Peptine ปริมาณถึง 10,000 มิลลิกรัม และสารสกัดอื่นๆ จากธรรมชาติ อีก 6,000 มิลลิกรัม ได้แก่ กลูต้า สารตั้งต้นกลูต้า สารสกัดซากุระจากประเทศญี่ปุ่น วิตามินซี วิตามินอี และวิตามิน B3 ภายในซอง มาในรูปแบบผง 1 ซอง เพียง 60 แคลอรี่ ไม่มีน้ำตาล ไขมัน โซเดียม และคลอเรสเตอคอล
เพราะมี คอลลาเจน 3x คอมเพล็กซ์ + กลูต้า + ซากุระ + วิตามินซี + วิตามิน อี + วิตามิน บี3 + สารสกัดจากข้าว +เห็ดหูหนูขาว + Rose Hips + อื่นๆ
คำถามที่พบบ่อย “คอลลาเจนช่วยอะไร”?
1. การกินคอลลาเจนจะถูกดูดซึมไปที่ผิวได้จริงหรือ?
คอลลาเจนที่กินเข้าไปจะถูกย่อยเป็นกรดอะมิโนและเปปไทด์เล็ก ๆ ซึ่งร่างกายนำไปใช้สร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อ รวมถึงผิวหนังได้
2. ร่างกายสร้างคอลลาเจนได้เอง แล้วทำไมต้องกินเสริมอีก?
เพราะเมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายสร้างคอลลาเจนลดลง และพฤติกรรมบางอย่างเร่งการสลาย จึงต้องเสริมคอลลาเจนเพื่อให้ร่างกายได้คอลลาเจนในระดับที่เพียงพอ
3. คอลลาเจนทานตอนไหนได้ผลดีสุด?
ทานตอนท้องว่างหรือก่อนนอน เพื่อให้ดูดซึมได้เต็มที่
4. อายุเท่าไหร่ถึงเริ่มทานคอลลาเจนได้?
ส่วนใหญ่เริ่มทานได้ตั้งแต่อายุ 25 ปีขึ้นไป หรือเมื่อเริ่มสังเกตว่าผิวและข้อต่อเสื่อมลง
5. ต้องใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะเห็นผลจากการเสริมคอลลาเจน?
ผลจากการรับประทานคอลลาเจนขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคลและการดูแลร่างกายโดยรวม สำหรับซูเปอร์ เคลียร์ คอลลาเจน เมื่อทานต่อเนื่อง 7-14 วัน จะเริ่มเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงว่าผิวเริ่มชุ่มชื้นและเรียบเนียนขึ้น



