Shopping Cart

ไม่มีสินค้าในตะกร้า

7 สาเหตุที่ทำให้น้ำหนักลดไม่ลงหรือลดยาก

การลดน้ำหนักเป็นเป้าหมายที่หลายคนพยายามทำอย่างจริงจัง แต่กลับพบว่าแม้จะควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง น้ำหนักก็ยัง “ไม่ขยับ” หรือ “ลดยากผิดปกติ” จนทำให้รู้สึกท้อใจ หลายครั้งที่ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ความพยายามของคุณ แต่อยู่ที่ “วิธี” และ “ความเข้าใจที่ถูกต้อง” ต่อระบบของร่างกาย

ในบทความนี้เราจะพาไปสำรวจ 7 สาเหตุที่ทำให้น้ำหนักลดไม่ลง หรือ ลดยาก พร้อมแนะนำวิธีลดน้ำหนักอย่างยั่งยืน รวมถึงบทบาทสำคัญของ “โปรตีนพืชแบบใส” ที่อาจเป็นคำตอบสำคัญที่หลายคนอาจมองข้ามมาตลอด

7 สาเหตุที่ทำให้น้ำหนักลดไม่ลงหรือลดยาก

1. กินน้อยเกินไปจนระบบเผาผลาญพัง

สาเหตุที่ทำให้น้ำหนักลดไม่ลง หลายคนเข้าใจผิดว่าการลดน้ำหนักต้อง “กินให้น้อยที่สุด” แต่การกินน้อยเกินไป โดยเฉพาะการงดอาหารหลักหรืออดอาหารนานเกิน 6-8 ชั่วโมง ทำให้ร่างกายเข้าสู่โหมด “ประหยัดพลังงาน” หรือ Metabolic Adaptation ซึ่งทำให้ระบบเผาผลาญช้าลง และร่างกายกักเก็บไขมันแทนการเผาผลาญ

วิธีแก้คือ ควรกินอาหารให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย โดยเน้น “คุณภาพของสารอาหาร” ไม่ใช่แค่ปริมาณแคลอรี

2. ขาดโปรตีนในมื้ออาหาร

โปรตีน คือสารอาหารสำคัญที่ช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อ เพิ่มการเผาผลาญ และทำให้รู้สึกอิ่มนาน แต่คนจำนวนมากกลับให้ความสำคัญกับการลดแป้งและไขมันโดยลืมใส่ใจเรื่องโปรตีน ทำให้ร่างกายสูญเสียกล้ามเนื้อและเผาผลาญช้าลง

การเติม โปรตีนพืชแบบใส (Plant Clear Protein) ลงในมื้ออาหารเป็นตัวช่วยที่ดี โดยเฉพาะในผู้ที่ไม่ชอบเนื้อสัตว์หรือรับประทานมังสวิรัติ โปรตีนพืชแบบใสจากแบรนด์ Super You ดื่มง่าย ย่อยง่าย ไม่หนักท้อง และให้กรดอะมิโนครบถ้วน เหมาะสำหรับเสริมในมื้อเช้าหรือหลังออกกำลังกาย

3. พักผ่อนไม่พอ นอนไม่เป็นเวลา

การนอนหลับไม่เพียงพอหรือเข้านอนสลับเวลากันทุกวัน ทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนผิดจังหวะ โดยเฉพาะฮอร์โมนเกรลิน (กระตุ้นความหิว) และเลปติน (ควบคุมความอิ่ม) ซึ่งจะเสียสมดุล และนำไปสู่การกินจุกจิกหรือกินเกินความจำเป็น

หากนอนหลับน้อยกว่า 6-7 ชั่วโมงต่อวัน หรือมีอาการง่วงตอนกลางวันเรื้อรัง อาจถึงเวลาต้องจัดตารางการนอนอย่างจริงจัง

4. ความเครียดสะสม ทำให้ร่างกายกักเก็บไขมัน

ความเครียดเรื้อรังกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งมีผลต่อการสะสมไขมันในช่องท้องโดยตรง ทั้งยังเพิ่มความอยากอาหาร โดยเฉพาะอาหารหวาน มัน เค็ม ทำให้การควบคุมน้ำหนักยากขึ้น

การผ่อนคลายด้วยกิจกรรมที่ชอบ เช่น เดินเล่น อ่านหนังสือ เล่นโยคะ หรือทำสมาธิ มีผลดีต่อทั้งสุขภาพจิตและการลดน้ำหนัก

5. ระบบย่อยอาหารไม่ดี ลำไส้ไม่สมดุล

หากมีอาการท้องอืด ท้องผูกบ่อย ลำไส้แปรปรวน ถ่ายไม่เป็นเวลา หรือท้องผูกเป็นประจำ อาจเป็นสัญญาณว่าระบบย่อยอาหารและจุลินทรีย์ในลำไส้มีปัญหา ซึ่งมีผลต่อการดูดซึมสารอาหารและการกำจัดของเสีย

การรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง เช่น ผัก ผลไม้ และการดื่มโปรตีนจากพืช ซึ่งมักมีสารที่มีคุณประโยชน์จากพืชและใยอาหารในตัว ช่วยส่งเสริมสุขภาพลำไส้ และลดการสะสมของสารพิษในร่างกาย

6. ดื่มน้ำไม่พอ ร่างกายขาดสมดุล

น้ำเป็นส่วนสำคัญของระบบเผาผลาญ การลำเลียงสารอาหาร และการขับของเสีย การดื่มน้ำไม่เพียงพออาจทำให้ร่างกายสะสมของเสีย เกิดการบวมน้ำ หรือเข้าใจผิดว่ายังหิว ทั้งที่จริง ๆ แล้วแค่ “ขาดน้ำ”

ควรดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 1.5-2 ลิตร และเพิ่มปริมาณหากมีการออกกำลังกายหรืออยู่ในอากาศร้อน

7. ออกกำลังกายผิดวิธี หรือไม่สม่ำเสมอ

สาเหตุที่ทำให้น้ำหนักลดไม่ลง อย่างการออกกำลังกายแบบหนักแต่ไม่ต่อเนื่อง หรือเลือกวิธีที่ไม่เหมาะกับร่างกาย เช่น ออกกำลังกายหนักเกินไปโดยไม่มีเวลากู้คืน อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บหรือเครียดเกินไป

แนะนำให้ออกกำลังกายแบบผสมระหว่าง คาร์ดิโอ (เช่น เดินเร็ว ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน) และ เวทเทรนนิ่ง เพื่อสร้างกล้ามเนื้อ พร้อมกับควบคุมอาหารไปด้วยอย่างสม่ำเสมอ ไม่เน้นเร่งผลภายในเวลาอันสั้น

สาเหตุที่ทำให้น้ำหนักลดไม่ลงหรือลดยาก ออกกำลังกายผิดวิธี หรือไม่สม่ำเสมอ หรือเลือกวิธีที่ไม่เหมาะกับร่างกาย เช่น ออกกำลังกายหนักเกินไปโดยไม่มีเวลากู้คืน อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บหรือเครียดเกินไป

ข้อสังเกตง่ายๆ ว่าคุณลดน้ำหนักถูกวิธีหรือไม่?

  • น้ำหนักค่อยๆ ลดลง 0.5 – 1 กก. ต่อสัปดาห์
  • รู้สึกอิ่มนาน ไม่หิวจุกจิก
  • ไม่มีอาการเหนื่อยล้า หรือหงุดหงิดง่าย
  • มวลกล้ามเนื้อไม่ลดลง (สามารถเช็คได้จากสัดส่วนหรือเครื่องชั่งวัดองค์ประกอบร่างกาย)
  • มีพลังงานและอารมณ์ที่ดีในแต่ละวัน

หากคุณรู้สึกว่า “ทำทุกอย่างแล้วแต่น้ำหนักไม่ลง” แนะนำให้ย้อนกลับไปดู 7 สาเหตุข้างต้นว่า มีข้อใดที่คุณอาจกำลังมองข้ามอยู่หรือไม่

แนะนำวิธีลดน้ำหนักอย่างถูกต้อง

1. คุมอาหาร แบบไม่เคร่งเกินไป

เน้นการกินอาหารให้ครบ 3 มื้อ ลดอาหารแปรรูป ลดน้ำตาล แป้งขัดขาว และเลือกคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ข้าวกล้อง มันเทศ ถั่วต่าง ๆ

2. เสริมโปรตีนทุกมื้อ

โปรตีนช่วยให้คุณอิ่มนาน รักษากล้ามเนื้อ และเร่งการเผาผลาญ โดยเฉพาะ โปรตีนพืชแบบใส จากแบรนด์ Super You ที่ทั้งเบา สบายท้อง ไม่คาว และเหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการรับโปรตีนจากสัตว์

  • ดื่มได้ง่ายทั้งก่อนและหลังออกกำลังกาย
  • ไม่มีแลคโตส ไม่ทำให้ท้องอืด
  • โปรตีนคุณภาพสูงจากพืช ดูดซึมได้ดี

3. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

เริ่มต้นจากวันละ 20-30 นาที แล้วค่อยๆ เพิ่มเวลาและความเข้มข้น ควรมีเวทเทรนนิ่ง 2-3 วันต่อสัปดาห์ควบคู่คาร์ดิโอ เพื่อให้กล้ามเนื้อแข็งแรงและเร่งการเผาผลาญ

สาเหตุที่ทำให้น้ำหนักลดไม่ลง อาจเพราะร่างกายขาดโปรตีน โปรตีนช่วยให้คุณอิ่มนาน รักษากล้ามเนื้อ และเร่งการเผาผลาญ โดยเฉพาะ โปรตีนพืชแบบใส จากแบรนด์ Super You ที่ทั้งเบา สบายท้อง ไม่คาว และเหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการรับโปรตีนจากสัตว์

Super You โปรตีนใส

Super You โปรตีนใส

เป็นโปรตีนใสจากพืช 9 ชนิด ถั่วลันเตา เคล บรอกโคลี เชอร์รี่ทาร์ต ขมิ้นชัน เมล็ดกาแฟไม่คั่ว ชาเขียว บีทรูต และบลูเบอร์รี่ ที่สกัดด้วยกรรมวิธีไฮโดรไลเสต ทำให้สามารถกรองโปรตีนได้ละเอียดกว่า ช่วยลดปัญหาสำหรับคนที่ระบบย่อยอาหารไม่ค่อยดี แพ้นม แพ้แลคโตส แพ้กลูเตน แพ้ถั่วเหลืองหรือแพ้ไข่ เหมาะกับคนที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อ ดูแลหุ่น คนที่ดื่มโปรตีนแบบขุ่นไม่ได้ คนที่เบื่ออาหารและคนที่ชอบน้ำหวาน แต่ไม่อยากเสียสุขภาพ

1 ซอง มีโปรตีนสูงถึง 23 กรัม แคลลอรี่ต่ำเพียง 120 แคลลอรี่ ไม่มีน้ำตาล ไขมัน และคอเลสเตอรอล

มี Probiotics 5,000 ล้านตัว ช่วยให้การย่อยโปรตีนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ดูดซึมได้อย่างรวดเร็ว 

ไม่มีนมถั่วเหลือง ไม่มีนมวัว ไม่มีแลคโตส ไม่กระตุ้นอินซูลิน (ผู้ป่วยเบาหวานสามารถทานได้) ปราศจากสารก่อภูมิแพ้

Super You ซูเปอร์ เคลียร์ โปรตีน มีทั้งหมด 8 รสชาติ