วิตามินบำรุงสายตา เลือกแบบไหนดี ดูแลอาการแสบตา ตาแห้ง ตาล้าจากจอ

ในยุคนี้ไม่ว่าจะเรียน ทำงาน หรือพักผ่อน ก็มักหนีไม่พ้นการใช้สายตาหน้าจอ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ มือถือ แท็บเล็ต ผลคือหลายคนเจอกับ ตาล้า แสบตา ตาแห้ง หรือมองไม่ชัดเป็นพัก ๆ 

วิตามินบำรุงสายตา จึงกลายเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่หลายคนสนใจ เพราะช่วยเติมสารอาหารที่ดวงตาต้องการ ให้ดวงตาแข็งแรงขึ้น ลดความเหนื่อยล้า และช่วยชะลอความเสื่อมเมื่ออายุมากขึ้น เรียกได้ว่าทั้งบำรุงในระยะสั้น และดูแลรักษาในระยะยาว

สาเหตุของอาการสายตาล้า ตาแห้ง ปวดตา แสบตา

อาการสายตาล้า ตาแห้ง ปวดตา และแสบตา มักมีสาเหตุจากหลายปัจจัยร่วมกัน เช่น

• การใช้สายตากับหน้าจอนานเกินไป (Digital Eye Strain): จ้องจอเป็นเวลานานทำให้กะพริบตาน้อยลง น้ำตาแห้งเร็ว เกิดอาการตาแห้ง เคืองตา แสบตา 
• การทำงานในที่แสงไม่เหมาะสม: แสงสว่างที่มากเกินไปหรือมืดเกินไป ทำให้ดวงตาต้องเพ่งมากขึ้น
• การขาดสารอาหารสำคัญ: หากร่างกายไม่ได้รับสารอาหาร เช่น วิตามินเอ ลูทีน และซีแซนทีน ดวงตาจะอ่อนล้าและเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
• การพักผ่อนไม่เพียงพอ: การนอนหลับน้อยทำให้ดวงตาแห้ง ตาแดง และแสบง่าย
• ใส่คอนแทคเลนส์หรืออยู่ห้องแอร์ทั้งวัน: มักทำให้ตาแห้งและระคายเคืองอาการเหล่านี้อาจไม่อันตรายทันที แต่ถ้าปล่อยไว้นานอาจส่งผลต่อสุขภาพตาในอนาคตระยะยาวได้
• ค่าสายตาเพี้ยน/ไม่ได้ตัดแว่น หากค่าสายตาเปลี่ยน แล้วไม่ได้ไปตัดแว่นใหม่เพื่อปรับค่าสายตา หรือหากสายตาผิกปกติ แต่ไม่ได้ไปตัดแว่น จะทำให้กล้ามเนื้อตาทำงานหนัก 

วิตามินบำรุงดวงตามีอะไรบ้าง

การดูแลสายตาไม่ใช่เพียงแค่การพักผ่อนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการได้รับ สารอาหารและวิตามินที่ช่วยบำรุงดวงตา อย่างเพียงพอด้วย โดยวิตามินสำคัญที่ควรได้รับ ได้แก่

1. วิตามินเอ (Vitamin A)

• ประโยชน์: ช่วยในการมองเห็นตอนกลางคืน ลดความเสี่ยงตาแห้ง และป้องกันโรคตาบอดกลางคืน
• แหล่งอาหาร:
  • ผักใบเขียวเข้ม เช่น คะน้า ตำลึง ผักโขม
  • ผักและผลไม้สีส้ม–เหลือง เช่น แครอท ฟักทอง มะม่วงสุก
  • ตับสัตว์ ไข่แดง และนม

2. ลูทีน และ ซีแซนทีน (Lutein & Zeaxanthin)

• ประโยชน์: เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สะสมอยู่ในจอประสาทตา ช่วยกรองแสงสีฟ้า ลดความเสื่อมของจอประสาทตาและโรคต้อกระจก
• แหล่งอาหาร:
  • ผักใบเขียวเข้ม เช่น คะน้า บร็อกโคลี ปวยเล้ง
  • ข้าวโพด
  • ไข่แดง
  • พริกหวาน

3. วิตามินซี (Vitamin C)

• ประโยชน์: ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนในดวงตา ลดความเสี่ยงโรคต้อกระจก และช่วยต้านอนุมูลอิสระ
• แหล่งอาหาร:
  • ส้ม ฝรั่ง กีวี
  • สตรอว์เบอร์รี่ บลูเบอร์รี่
  • มะขามป้อม
  • พริกหวาน

4. โอเมก้า-3 (Omega-3 Fatty Acids)

• ประโยชน์: ช่วยลดอาการตาแห้ง รักษาความชุ่มชื้นของดวงตา และบำรุงประสาทตา
• แหล่งอาหาร:
  • ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาแมกเคอเรล
  • เมล็ดแฟลกซ์ เมล็ดเจีย
  • วอลนัต

5. วิตามินอี (Vitamin E)

• ประโยชน์: ทำงานร่วมกับวิตามินซีในการปกป้องเซลล์ดวงตาจากอนุมูลอิสระ ลดความเสื่อมของเซลล์ประสาทตา
• แหล่งอาหาร:
  • ถั่วเปลือกแข็ง เช่น อัลมอนด์ เฮเซลนัต
  • เมล็ดทานตะวัน
  • น้ำมันพืช เช่น น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันข้าวโพด

6. แอนโทไซยานิน (Anthocyanins)

• ประโยชน์: สารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงดวงตา ลดอาการตาล้า และป้องกันจอประสาทตาเสื่อม
• แหล่งอาหาร:
  • ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เช่น บลูเบอร์รี่ แบล็กเบอร์รี่ มัลเบอร์รี่
  • องุ่นแดง เชอร์รี่ มะเขือม่วง

วิตามินเหล่านี้สามารถหาได้จากอาหารใกล้ตัวในชีวิตประจำวัน แต่หากใครไม่สามารถทานได้ครบหรือมีเวลาน้อย อาจเลือกเป็นอาหารเสริม หรือผลิตภัณฑ์พร้อมดื่มอย่าง SUUPER CLEAR BERRY SHOT ที่รวมสารบำรุงดวงตาสำคัญหลายชนิดไว้ในซองเดียว ทำให้สะดวกและมั่นใจได้ว่าร่างกายได้รับสารอาหารที่เพียงพอต่อการบำรุงสายตา

การบริโภควิตามินบำรุงสายตาช่วยอะไรบ้าง

หากได้รับวิตามินบำรุงสายตาในปริมาณที่เหมาะสมอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยได้หลายด้าน เช่น

• ลดอาการ ตาล้าและตาแห้ง จากการจ้องจอนาน ๆ
• ช่วยให้ การมองเห็นชัดขึ้น โดยเฉพาะในที่มืดหรือแสงน้อย
• เสริมความแข็งแรงให้กับ จอประสาทตา ลดโอกาสเสื่อมตามวัย
• ป้องกันโรคตาเรื้อรัง เช่น ต้อกระจก หรือจอประสาทตาเสื่อมในผู้สูงอายุ
• เสริมเม็ดสีจอประสาทตา ลูทีน/ซีแซนทีน ช่วยรับมือแสงจ้า

วิตามินดูแลดวงตา เหมาะกับใคร

• คนทำงาน/เรียน จ้องจอทั้งวัน – มีอาการล้า แสบตา เคืองตาเป็นช่วง ๆ
• ผู้สวมคอนแทคเลนส์ หรืออยู่ในห้องแอร์ทั้งวัน ที่มักจะมีอาการตาแห้ง
• ผู้ที่กินผักใบเขียว/อาหารที่มีลูทีน – ซีแซนทีนน้อย
• หลังทำเลสิกระยะแรก/กลุ่มที่มีอาการตาแห้งเรื้อรัง (ควรประเมินร่วมกับแพทย์)
• คนทั่วไปที่อยากป้องกันปัญหาดวงตาในอนาคต

วิตามินบำรุงสายตา เลือกแบบไหนดี

เวลาจะเลือกซื้อ ควรพิจารณาด้านหลัก ๆ ดังนี้

• พิจารณา สารสำคัญควบคู่กับปริมาณการทานต่อวัน ถ้าเป้าหมายในการรับประทานคือคือ ความสบายตา/ตาแห้งจากจอ ควรเน้น ลูทีน-ซีแซนทีน + แอนโทไซยานินจากบิลเบอร์รี่/มากิ 

• พิจารณามาตรฐานสารสกัด เช่น ระบุแบรนด์วัตถุดิบ (MaquiBright®, Mirtoselect®) หรือ % แอนโทไซยานินชัดเจน
• หากต้องการคุมพลังงาน อ่านฉลากโภชนาการ เลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำตาลสูง/แคลอรีสูง 
• เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีความน่าเชื่อถือ มีเลข อย./ฮาลาล/การรับรอง และข้อมูลผู้ผลิตติดต่อได้ชัดเจน
• รูปแบบที่ทานง่าย แคปซูล/ช็อตพร้อมดื่ม/ผงชง ควรเลือกให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ส่วนตัว
• ความปลอดภัยในการใช้ร่วมยา/โรคประจำตัว หากไม่แน่ใจให้ปรึกษาแพทย์/เภสัชกรก่อนใช้ 

SUUPER CLEAR BERRY SHOT

ถ้าคุณกำลังมองหาวิธี ลดอาการตาล้า ตาแห้ง และเสริมความสดใสให้ดวงตา ในยุคดิจิทัล SUUPER CLEAR BERRY SHOT คือคำตอบ

• รวมสารบำรุงสายตาครบสูตร – มี ลูทีน, ซีแซนทีน, วิตามินเอ, วิตามินซี และสารสกัดจาก บิลเบอร์รี่ Mirtoselect® และมากิเบอร์รี่ MaquiBright® ช่วยให้ดวงตาแข็งแรง ฟื้นฟูความสดใส ลดอาการล้า
• ลดอาการตาแห้ง – สารสกัดจากเบอร์รี่ช่วยบำรุงน้ำตา ให้ดวงตาชุ่มชื้นตลอดวัน
• ดื่มง่าย อร่อย สดชื่น – เป็นช็อตพร้อมดื่ม 1 ซองต่อวัน รสชาติเบอร์รี่เข้มข้น ไม่ต้องกลัวทานยากหรือเม็ดแคปซูลใหญ่ ยิ่งแช่เย็น ยิ่งสดชื่น 
• 0 แคลอรี 0 น้ำตาล – เหมาะกับทุกคนที่คุมแคลอรีหรือดูแลสุขภาพ
• สะดวก พกพาง่าย – เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ ใช้สายตาหนัก ทำงาน/เรียนออนไลน์
• มั่นใจได้ในคุณภาพแและความปลอดภัย ปลอดภัยด้วยการรับรองมาตรฐานจากอย. ได้รับเครื่องหมายรับรองฮาลาล 

แนะนำการใช้:

วันละ 1 ซอง รับประทานตอนเช้าหรือช่วงพักสายตา เพียงสัปดาห์แรกก็เริ่มรู้สึกความสดชื่นของดวงตา และเมื่อทานต่อเนื่อง ดวงตาจะฟื้นฟูได้อย่างเต็มที่

เหมาะกับ:

• วัยเรียน วัยทำงานที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์หรือมือถือทุกวัน
• คนที่ใส่คอนแทคเลนส์หรืออยู่ห้องแอร์บ่อย ๆ
• ผู้ที่เริ่มมีอาการตาล้า ตาแห้ง หรือมองไม่ชัด
• คนทั่วไปที่ต้องการป้องกันสายตาเสื่อมและฟื้นฟูความสดใสของดวงตา