Shopping Cart

ไม่มีสินค้าในตะกร้า

กินเจ 2567 กินอะไรได้บ้าง ห้ามกินอะไรบ้าง กินอย่างไร ไม่ให้ร่างพัง

กินเจ คือ การห้ามกินเนื้อสัตว์ทุกชนิด ห้ามกินผักที่มีกลิ่นฉุน ห้ามกินอาหารรสจัด โดยการรับประทานเจให้สุขภาพดีนั้น เราแนะนำว่าให้หลีกเลี่ยงของทอด ของผัด และเน้นการรับประทานผัก 5 สีเพื่อให้สุขภาพดี รวมถึงการหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป ให้เน้นการรับประทานโปรตีนให้เพียงพอ

กินเจคืออะไร

กินเจคืออะไร

คำว่า “เจ” ในภาษาจีนทางพระพุทธศาสนา หมายถึง “อุโบสถ หรือการรักษาศีล 8” ของศาสนาพุทธนิกายมหายาน ที่จะมีการรักษาอุโบสถศีล ตามหลักศีล 8 ข้อ และไม่บริโภคเนื้อสัตว์ เพื่อเป็นการไม่เบียดเบียนสิ่งมีชีวิต การกินเจไม่ใช่เพียงแต่งดเนื้อสัตว์ อาหาร และเครื่องปรุงที่มีส่วนประกอบของเนื้อสัตว์ แต่ยังรวมถึงการรักษาศีล ประพฤติตัวเป็นคนดีทั้งกาย วาจา ใจ 

เชื่อว่าการกินเจเริ่มต้นขึ้นในสมัยที่กองทัพแมนจูเข้ามาปกครองชาวจีน ทำให้กลุ่มกองกำลังทหารชาวบ้านที่ชื่อว่า “หงี่หั่วท้วง” รวมตัวกันต่อต้านกองทัพแมนจู โดยแสดงออกผ่านการถือศีล งดกินเนื้อสัตว์ และผักที่มีกลิ่นฉุน นุ่งขาวห่มขาวประกอบพิธีกรรมบริกรรมคาถาตามความเชื่อ หวังว่าจะสามารถช่วยเสริมกำลังใจ และป้องกันปืนไฟของกองทัพแมนจูที่ยิงเข้ามาได้

แต่สุดท้ายแล้ว กลุ่มกองกำลังหงี่หั่วท้วงก็พ่ายแพ้ต่อแมนจู ทำให้นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ชาวจีนจึงร่วมกันถือศีลกินผักในเดือน 9 เป็นระยะเวลา 9 วัน เพื่อรำลึกถึงบุญคุณของกลุ่มหงี่หั่วท้วงในอดีต

การกินเจในประเทศไทยนั้นเป็นการรับเอาประเพณีมาจากจีน คาดว่าคนไทยรู้จัก ‘การกินเจ’ มายาวนานแล้ว เชื่อกันว่าน่าจะเกิดขึ้นเมื่อราว พ.ศ. 2170 ซึ่งตรงกับสมัยอาณาจักรอยุธยา และยังสืบต่อมาถึงปัจจุบัน 

การปฏิบัติตนในช่วงกินเจ

ในช่วงเทศกาลกินเจ 9 วัน 9 คืน สำหรับปี 2567 นี้ เทศกาลกินเจจะเริ่มต้นในวันที่ 3 ตุลาคม และสิ้นสุดลงในวันที่ 11 ตุลาคม ซึ่งบางท่านอาจจะล้างท้องในมื้อเย็นวันที่ 2 ตุลาคม รวมเป็น 10 วัน

ผู้ที่ต้องการกินเจอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ตามประเพณีการกินเจ จะต้องปฏิบัติดังนี้

  1. รับประทาน “อาหารเจ”
  2. งดอาหารรสจัด ซึ่งหมายถึงอาหารเผ็ด หวานมาก เปรี้ยวมาก เค็มมาก งดผักที่มีกลิ่นฉุนทั้งหลาย แยกภาชนะสำหรับอาหารเจเท่านั้น ไม่ใช้ภาชนะใส่อาหารเจ ร่วมกับอาหารอื่นๆ หรือใช้รวมกับผู้ที่ไม่ได้กินเจ
  3. รักษาศีล 5
  4. รักษาจิตใจให้บริสุทธิ์ รักษาอารมณ์ ไม่พูดคำหยาบคาย ทำบุญทำทาน ไหว้พระ สวดมนต์
  5. นุ่งขาวห่มขาวตลอดเทศกาลกินเจ และควรแต่งกายชุดขาว เข้าร่วมพิธีกรรมต่าง ๆ
  6. ห้ามดื่ืมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ ตลอดช่วงกินเจ

กินเจ ห้ามกินอะไรบ้าง

เหตุผลหลักที่ทำให้มีเทศกาลกินเจเกิดขึ้น ก็เพื่อรักษาศีล 8 และเป็นการละเว้นเนื้อสัตว์ จีงมีแนวทางการรับประทานอาหารเจ ดังนี้

  1. ห้ามกินเนื้อสัตว์ทุกชนิด รวมถึงไข่ เครื่องใน โปรตีนจากสัตว์ และอาหารอื่นๆ ที่มีเนื้อสัตว์เป็นส่วนประกอบ เช่น นม เนย ชีส โยเกิร์ต ไส้กรอก น้ำมันหอย น้ำผึ้ง ปูอัด ฯลฯ
  2. ห้ามกินผักที่มีกลิ่นฉุน ได้แก่ ต้นหอม หัวหอม กระเทียม กระเทียมโทน กุ้ยช่าย ใบยาสูบ ฯลฯ
  3. ห้ามกินอาหารรสจัด ทั้งเค็มจัด หวานจัด เปรี้ยวจัด หรือเผ็ดจัด

กินเจอย่างไร ไม่ให้ร่างพัง

กินเจ อย่างไรให้ร่างไม่พัง

1. หลีกเลี่ยงของทอด

ของทอดในเทศกาลเจนั้นแสนอร่อย ไม่ว่าจะเป็น เผือดทอด ข้าวโพดทอด เต้าหู้ทอด ปอเปี๊ยะ แต่มีไขมันจำนวนมาก ควรเลี่ยงให้ได้มากที่สุด หากไม่อยากน้ำหนักขึ้นหลังจากเทศกาลกินเจ

2. หลีกเลี่ยงของผัด

อีกหนึ่งเมนูเจที่เจอบ่อย คือหมี่ซั่วผัด ผัดผัก ที่ถึงแม้จะเป็นผัก แต่มักจะมีการใส่น้ำมันที่มากพอสมควร  ควรงดไปก่อน หรือบริโภคแต่น้อย แล้วเน้นเมนูหลักให้เป็นอาหารเจประเภทย่าง ต้ม ตุ๋น หรือนึ่ง ที่มีปริมาณไขมันน้อยกว่า

3. เน้นรับประทานผักหลากสี อย่างน้อย 5 สี ร่วมกับข้าว แป้ง ไม่ขัดสี

รับประทานผักอย่างน้อย 400 กรัมต่อวัน โดยพืชผักหลากสีอุดมไปด้วย ไฟโตนิวเทรียนท์ (Phytonutrients) คือสารพฤกษเคมี หรือสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เช่น

  • สีเขียว – ผักคะน้า ตำลึง เป็นต้น มีสารคลอโรฟิลล์ (Chlorophyll) ต้านอนุมูลอิสระ บำรุงผิวพรรณ ให้กากใยอาหารสูง ช่วยระบบขับถ่าย
  • สีแดง – มะเขือเทศ บีทรูท กระเจี๊ยบแดง เป็นต้น มีสารไลโคปีน (Lycopene) ช่วยบำรุงหัวใจ ลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
  • สีม่วง – กะหล่ำปลีสีม่วง มะเขือม่วง พืชตระกูลเบอร์รี่ เป็นต้น มีสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ช่วยชะลอความแก่ ต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงของมะเร็ง
  • สีเหลือง สีส้ม – แครอท ฟักทอง มะละกอ เป็นต้น มีสารลูทีน (Lutein) เบต้าแคโรทีน (beta-Carotene) ช่วยบำรุงสายตา หัวใจและหลอดเลือด
  • สีขาว น้ำตาลอ่อน – หัวไชเท้า ขิง ข่า มีสารอัลลิซิน (Allicin) และ แซนโทน (Xanthone) ช่วยลดการอักเสบ ลดไขมันในเลือด ลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • ข้าว แป้ง ไม่ขัดสี ทานข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ จะให้ใยอาหารสูง ช่วยให้อิ่มท้องนาน ค่อย ๆ ปลดปล่อยน้ำตาลในเลือดอย่างช้า ๆ และยังมีวิตามินบี 1 สูง 

4. หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป

ในเมนูอาหารเจมีอาหารแปรรูป จำพวกเนื้อสัตว์เทียม เป็นส่วนประกอบอยู่มาก ดังนั้นอะไรก็ตามที่เป็นอาหารที่แปรรูป จากอาหารปกติ อาจมีอันตรายกับร่างกายในอนาคตได้ เช่นเดียวกันกับอาหารแปรรูป ทั่วไปที่มีผลงานวิจัยหลังการบริโภคมา 10-20 ปีว่าเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งได้ เนื้อสัตว์เทียมเหล่านี้ก็เช่นเดียวกัน ขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารแปรรูป มักแฝงอันตรายเสมอ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารแปรรูป แล้วเลือกกินอาหารที่ปรุงสดใหม่จากวัตถุดิบธรรมชาติจะดีกว่า

หรือหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ควรเลือกรับประทานอาหารแปรรูป ที่มีโปรตีนสูง คาร์โบไฮเดรตต่ำ เช่น เนื้อสัตว์จากพืช ควบคู่กับการทานผัก ผลไม้ ให้ได้สารอาหารที่ครบถ้วน และหลากหลาย

5. ทานโปรตีนจากหลากหลายแหล่ง

โปรตีนเกษตร ถือเป็นวัตถุดิบหลักอีกหนึ่งอย่างในการปรุงอาหารเจ เอาไว้เพื่อทดแทนการขาดโปรตีนจากเนื้อสัตว์ ถึงจะชื่อว่าโปรตีน แต่โปรตีนเกษตรกลับมีคาร์บและไขมันแฝงอยู่ปริมาณมาก โดยโปรตีนเกษตร 100 กรัม มีปริมาณโปรตีน ราว 49 กรัม ปริมาณคาร์โบไฮเดรต ราว 40 กรัม เรียกว่าสัดส่วนแทบจะเป็น 50:50

ควรรับประทานโปรตีนจากธรรมชาติ โดยนำมาปรุงเป็นเมนูอาหารเลยยิ่งดี

ไม่ว่าจะเป็น

  •  โปรตีนจากธัญพืช (cereal) เช่น ข้าวโอ๊ต ข้าวโพด ข้าวสาลี ข้าวเจ้า ข้าวฟ่าง ข้าวบาร์เลย์
  • โปรตีนจากถั่ว (legume) เช่น ถั่วดำ ถั่วเหลือง ถั่วแดง ถั่วลูกไก่ ถั่วเลนทิล ถั่วลิสง
  • โปรตีนจากเมล็ดพืช (seed) เช่น เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน เมล็ดกัญชง เมล็ดป๊อปปี้
  • โปรตีนจากหญ้าที่ไม่ใช่ธัญพืช (pseudo-cereal) เช่น เมล็ดเจีย ควินัว บักวีท 
  • โปรตีนจากผัก (vegetable protein) เช่น บร็อกโคลี ยอดแค ยอดกระถิน  ใบมะรุม และใบชายา ขี้เหล็ก เคลป์ กะหล่ำดอก ผักหวาน ชะอม
  • อาหารที่ทำจากถั่วเหลืองทั้งหลาย ถือว่าเป็นอาหารที่มีโปรตีนอยู่มากที่สุด เพราะถั่วเหลืองเพียงครึ่งถ้วยก็มีปริมาณโปรตีนที่สูงถึง 20 กรัม
  • ในเทศกาลกินเจ เราทุกคนมีโอกาสที่จะรับประทานโปรตีนไม่เพียงพอ จากการละเว้นเนื้อสัตว์ เนื่องจากใน 1 วันเราควรทานโปรตีนให้ได้ 1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ดังนั้นเราสามารถทานโปรตีนเสริมได้ โปรตีนพืช จาก Super You “ซูเปอร์ เคลียร์ โปรตีน” ประกอบด้วยพืชหลากหลายชนิด หนึ่งในส่วนประกอบหลักคือ ถั่วลันเตา ที่เข้ามาตอบโจทย์กลุ่มคนที่แพ้โปรตีนจากถั่วเหลือง ทำให้ ซูเปอร์ เคลียร์ โปรตีน เหมาะแก่การรับประทานในช่วงกินเจ เพราะเราคัดสรรวัตถุดิบจากธรรมชาติ ทำให้ได้รับกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายอย่างครบถ้วน ไม่เหม็นกลิ่นโปรตีน ดื่มง่าย คล่องคอ 

Suuper Clear โปรตีนใสจากพืช 8 รสชาติ

โดย Super You ซูเปอร์ เคลียร์ โปรตีน มีทั้งหมด 8 รสชาติ

  ▪ Jelly Muscat (เจลลี่ มัสแคท) – องุ่นเขียวเนื้อเจลลี่พันธุ์พิเศษ นำเข้าจากญี่ปุ่น

  ▪ Berry Booste (เบอร์รี่ บูสตี้) – เบอร์รี่นานาชนิดนำเข้าจากฝรั่งเศส

  ▪ Lemone Tea (เลมอน เน่ ที) – ชามะนาวแท้ๆ หอม และ รสชาติกลมกล่อมที่คนไทยชื่นชอบ

  ▪ O-Liang (โอเลี้ยง) – เข้มข้นถึงรสโอเลี้ยงแท้ๆหอม ฟิน (มีคาเฟอีน = กาแฟ 1 ช็อต)

  ▪ Yellow Herbal Flower (เก๊กฮวย หล่อฮังก๊วย) + คาโมมายล์ – หอม สดชื่น แก้ร้อนใน

  ▪ Red Sala Cider (น้ำแดง) – กลิ่นหอม เบาๆ หวานน้อย ชื่นใจ

  ▪ Cocoa (โกโก้) – นำเข้าจากสวิสเซอร์แลนด์ เข้มข้น กลมกล่อม

  ▪ Plum (บ๊วย) – สดชื่น ชุ่มคอ เปรี้ยว เค็ม หวาน ความรู้สึกเหมือนลูกอมบ๊วยตอนเด็ก ๆ

เทศกาลเจ ปีนี้ ลองเพิ่มเมนูจาก Super You โปรตีนพืชแบบใส ลงไปในเมนูรายวัน นอกจากจะได้บุญแล้ว ยังได้โปรตีนเน้นๆด้วย

เป็นโปรตีนใสจากพืชคัดพิเศษ 9 ชนิด คือ ถั่วลันเตา เคล บรอกโคลี เชอร์รี่ทาร์ต ขมิ้นชัน เมล็ดกาแฟไม่คั่ว ชาเขียว บีทรูต และบลูเบอร์รี่ สกัดด้วยกรรมวิธีไฮโดรไลเสต (hydrolysate) ทำให้ได้ผงโมเลกุลที่เล็กมาก ช่วยลดปัญหาคนที่มีปัญหาด้านระบบย่อยอาหาร แพ้นม แพ้แลคโตส แพ้กลูเตน แพ้ถั่วเหลืองหรือแพ้ไข่ เหมาะกับคนที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อ ลดน้ำหนัก คนที่ดื่มโปรตีนแบบขุ่นไม่ได้ คนที่เบื่ออาหารและคนที่ชอบน้ำหวาน แต่ไม่อยากเสียสุขภาพ

  •  1 ซอง มีโปรตีนสูงถึง 23 กรัม แคลลอรี่เพียง 120 แคลลอรี่ ไม่มีน้ำตาล ไขมัน และคอเลสเตอรอล
  •  มี Probiotics 5,000 ล้านตัว ช่วยให้การย่อยโปรตีนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ดูดซึมได้อย่างรวดเร็ว 
  •  ไม่มีนมถั่วเหลือง ไม่มีนมวัว ไม่มีแลคโตส
  •  ไม่กระตุ้นอินซูลิน (ผู้ป่วยเบาหวานสามารถทานได้) ปราศจากสารก่อภูมิแพ้

Super You ซูเปอร์ เคลียร์ โปรตีนใส มีทั้งหมด 8 รสชาติ