Shopping Cart

ไม่มีสินค้าในตะกร้า

รู้ได้อย่างไรว่าร่างกายคุณ “ขาด” โพรไบโอติกส์?

ในทุก ๆ วัน ร่างกายของเราต้องเผชิญกับมลภาวะ อาหารแปรรูป ยา และความเครียด ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อร่างกาย โดยเฉพาะต่อระบบย่อยอาหารและภูมิคุ้มกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หลายคนอาจไม่รู้ว่าเบื้องหลังของปัญหาสุขภาพหลายอย่างที่ดูเหมือนไม่ร้ายแรงนัก เช่น ท้องอืด ผิวดูไม่สดใส หรือแม้แต่อารมณ์แปรปรวน อาจเกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ที่เรียกว่า “โพรไบโอติกส์” ที่เป็น “แบคทีเรียดี” ช่วยปรับสมดุลให้ร่างกาย หากสงสัยว่าร่างกายอาจกำลังขาด Probiotics อยู่รึเปล่า? ลองอ่านบทความนี้ให้จบ เพื่อช่วยทำความเข้าใจว่าทำไมโพรไบโอติกส์ ถึงสำคัญต่อสุขภาพมากกว่าที่คิด

โพรไบโอติกส์ (Probiotics) คืออะไร

โพรไบโอติกส์ คือ จุลินทรีย์มีชีวิตที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะกับระบบย่อยอาหารและลำไส้ หากพูดง่าย ๆ ก็คือ “แบคทีเรียดี” ที่อาศัยอยู่ในลำไส้ของเรา และช่วยรักษาสมดุลของจุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งสมดุลนี้มีความสำคัญอย่างมาก เพราะหากมีแบคทีเรียไม่ดีมากเกินไป ก็จะเกิดการอักเสบ ลำไส้แปรปรวน หรือภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง

คำว่า “Probiotics” มาจากภาษากรีก “pro bios” ที่แปลว่า “เพื่อชีวิต” ซึ่งสะท้อนถึงหน้าที่หลักของจุลินทรีย์ชนิดนี้ที่มีต่อสุขภาพโดยรวมอย่างแท้จริง โดยทั่วไปแล้ว โพรไบโอติกส์จะอาศัยอยู่ในระบบทางเดินอาหาร โดยเฉพาะในลำไส้ใหญ่ ซึ่งมีจุลินทรีย์อยู่รวมกันมากกว่าล้านล้านตัว เรียกรวมว่า ไมโครไบโอม (Microbiome)

Probiotics มีหลายสายพันธุ์ โดยมีกลุ่มหลักคือ 

  • Lactobacillus spp. – ช่วยในการย่อยอาหาร, ปรับสมดุลลำไส้, ลดการอักเสบ
  • Bifidobacterium spp. – ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน, ลดอาการลำไส้แปรปรวน, และส่งเสริมการดูดซึมสารอาหาร

นอกจากกลุ่มหลัก ยังมีสายพันธุ์เฉพาะที่ผ่านการศึกษาวิจัยมาแล้วว่ามีประโยชน์เฉพาะทาง เช่น

  • Saccharomyces boulardii: เป็นยีสต์ชนิดหนึ่งที่ช่วยลดอาการท้องเสียจากการใช้ยาปฏิชีวนะ 
  • B. Lactis B420 – ช่วยควบคุมการดูดซึมไขมัน และมีผลต่อการควบคุมน้ำหนัก
  • Bifidobacterium – เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และช่วยดูดซึมวิตามิน
  • Streptococcus thermophilus: ช่วยย่อยแลคโตสในนม เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้นมวัว
  • L. Rhamnosus HN001 – สนับสนุนสุขภาพจิตและลดความเครียด /
  • L. Acidophilus NCFM – สนับสนุนระบบภูมิคุ้มกัน และช่วยบรรเทาอาการไม่สบายท้องจากนม

โพรไบโอติกส์ช่วยอะไรบ้าง?

Probiotics ไม่ได้แค่ช่วยให้ “ขับถ่ายดี” เท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพในหลายระบบของร่างกาย

  • ปรับสมดุลลำไส้: ลดการอักเสบ และยับยั้งแบคทีเรียก่อโรค
  • เสริมภูมิคุ้มกัน: Probiotics กระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว
  • ช่วยดูดซึมสารอาหาร: เช่น วิตามิน B12, กรดโฟลิก และแร่ธาตุ
  • ลดอาการลำไส้แปรปรวน: เช่น ท้องอืด ท้องผูก หรือท้องเสียเรื้อรัง
  • ส่งผลต่อสุขภาพผิว: ช่วยลดสิวและการอักเสบของผิวหนัง
  • มีผลต่อสุขภาพจิต: งานวิจัยพบว่า “gut-brain axis” หรือการเชื่อมโยงระหว่างลำไส้กับสมอง มีความเกี่ยวข้องกับอารมณ์ ความเครียด และภาวะซึมเศร้า
อาการที่แสดงร่างกายคุณ “ขาด” โพรไบโอติกส์ เช่น มีกลิ่นปากหรือกลิ่นตัวผิดปกติ: อาจเป็นผลจากการสะสมของเสียและการย่อยอาหารที่ไม่สมบูรณ์ ป่วยง่ายหลังจากเครียดหรืออดนอน

อาการที่แสดงว่าร่างกายต้องการ Probiotics

การขาดสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้หรือที่เรียกว่า “ภาวะลำไส้ไม่สมดุล (Dysbiosis)” อาจไม่ได้แสดงออกด้วยอาการที่ชัดเจนในทันที แต่อาจสะสมและแสดงออกผ่านอาการหลากหลายที่หลายคนมักมองข้าม เช่น

  • ปวดศีรษะบ่อย ๆ หรือมีภาวะ Brain Fog (มึนเบลอ ไม่โฟกัส): ระบบลำไส้มีผลต่อการผลิตสารสื่อประสาท เช่น เซโรโทนิน ที่ควบคุมอารมณ์และการรับรู้
  • มีอาการแพ้อาหารหลายชนิด: เพราะลำไส้รั่ว (Leaky Gut) ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ
  • กลิ่นปากหรือกลิ่นตัวผิดปกติ: อาจเป็นผลจากการสะสมของเสียและการย่อยอาหารที่ไม่สมบูรณ์
  • มีอาการทางผิวหนัง เช่น ผื่น ลมพิษ หรือผิวหนังอักเสบ เพราะการอักเสบจากภายในส่งผลต่อผิวภายนอก
  • ป่วยง่ายหลังจากเครียดหรืออดนอน: เป็นสัญญาณว่าแบคทีเรียดีที่ช่วยภูมิคุ้มกันเริ่มลดน้อยลง

สาเหตุที่ทำให้ Probiotics ในร่างกายลดลง

หลายปัจจัยในชีวิตประจำวันอาจทำให้แบคทีเรียดีในร่างกายลดลงโดยที่เราไม่รู้ตัว 

  • การใช้ยาปฏิชีวนะ: ยาเหล่านี้ฆ่าเชื้อโรค แต่ก็มักฆ่า Probiotics ไปด้วย
  • การกินอาหารแปรรูป น้ำตาลสูง หรือไขมันทรานส์: ทำให้แบคทีเรียก่อโรคเจริญเติบโตมากขึ้น
  • ความเครียดสะสม: มีผลต่อสมดุลของระบบประสาทและระบบย่อยอาหาร
  • พักผ่อนไม่เพียงพอ: ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันและลำไส้
  • การไม่กินผักผลไม้ที่มีใยอาหาร: ทำให้ขาดพรีไบโอติกส์ (Prebiotics)  เนื่องจากผักผลไม้มีกากใยอาหารที่มีพรีไบโอติกส์ (Prebiotics) เป็นอาหารของโพรไบโอติกส์ จึงทำให้ Probiotics ไม่มีอาหารสำหรับการเจริญเติบโต 

นอกจากพฤติกรรมพื้นฐานที่กล่าวไปแล้ว ยังมีสาเหตุลึก ๆ ที่ควรระวัง เช่น

  • การใช้ยาคุมกำเนิด: มีผลต่อความสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้โดยไม่รู้ตัว
  • การอดอาหารบางประเภท หรือกินอาหารแบบจำกัด: เช่น การงดไขมันหรือโปรตีนเป็นเวลานาน ทำให้ลำไส้ขาดสารอาหารที่แบคทีเรียดีต้องการ
  • ภาวะฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงในวัยต่าง ๆ: โดยเฉพาะในวัยทองหรือวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงของรอบเดือน
  • การดื่มแอลกอฮอล์บ่อยครั้ง: แอลกอฮอล์ทำลาย Probiotics โดยตรง และทำให้จุลินทรีย์ก่อโรคเพิ่มจำนวนได้ง่ายขึ้น
  • ขาดใยอาหาร (Prebiotic): แม้จะมีProbiotics ในลำไส้ แต่หากไม่มี “อาหาร” สำหรับแบคทีเรียดี (เช่น ใยอาหารจากกล้วยดิบ หอมหัวใหญ่ กระเทียม หรือธัญพืชไม่ขัดสี) ก็จะไม่สามารถอยู่รอดและเพิ่มจำนวนได้

การรักษา Probiotics ในร่างกายให้อยู่ในระดับสมดุล ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการกินอาหารเพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้ชีวิตโดยรวม เช่น การนอนหลับ ความเครียด และการใช้ยาต่าง ๆ ด้วย

แหล่ง โพรไบโอติกส์ จากอาหาร
โยเกิร์ต (ที่มีคำว่า “มีจุลินทรีย์มีชีวิต”)
กิมจิ และ ผักดองแบบธรรมชาติ
มิโสะ หรือถั่วหมักญี่ปุ่น
คอมบุชา (เครื่องดื่มหมักจากชา)
นัตโตะ (ถั่วหมักญี่ปุ่น)
เทมเป้ (ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองหมัก)

จะเติม Probiotics ให้ร่างกายได้อย่างไร?

หากมีอาการข้างต้น ที่แสดงถึงการขาด Probiotics อย่าเพิ่งกังวล เพราะสามารถเสริมได้ทั้งจากอาหารธรรมชาติ และ อาหารเสริม ดังนี้

แหล่ง Probiotics จากอาหาร

  • โยเกิร์ต (ที่มีคำว่า “มีจุลินทรีย์มีชีวิต”)
  • กิมจิ และ ผักดองแบบธรรมชาติ
  • มิโสะ หรือถั่วหมักญี่ปุ่น
  • คอมบุชา (เครื่องดื่มหมักจากชา)
  • นัตโตะ (ถั่วหมักญี่ปุ่น)
  • เทมเป้ (ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองหมัก)

เสริมด้วยอาหารเสริมโพรไบโอติกส์

หากคุณไม่สามารถรับประทานอาหารหมักหรือมีเวลาจำกัดในการดูแลโภชนาการในแต่ละวัน การเลือกอาหารเสริม Probiotics ก็เป็นทางเลือกที่สะดวกและได้ผลดี โดยควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่

1.เลือกสูตรที่ประกอบไปด้วยหลายสายพันธุ์

มองหาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มี Probiotics หลายสายพันธุ์ ความหลากหลายช่วยให้ไมโครไบโอมมีความสมดุลมากขึ้น

2. จำนวน CFU สูง

เลือกผลิตภัณฑ์ที่มี CFU อย่างน้อย 1 หมื่นล้าน CFU (Colony-forming units) สำหรับการบำรุงรักษารายวัน

3. เลือกสายพันธุ์ที่ตรงกับเป้าหมายสุขภาพ 

เช่น

L. Paracasei Lpc-37 – ช่วยลดการอักเสบและเพิ่มความแข็งแรงของภูมิคุ้มกัน

L. Rhamnosus HN001 – สนับสนุนสุขภาพจิตและลดความเครียด

B. Animalis BB-12 – เสริมการขับถ่าย และสมดุลลำไส้

4. ได้รับการตรวจสอบ

เลือกใช้แบรนด์ที่แสดงสายพันธุ์ที่แน่นอนและได้รับการทดสอบโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพ

Super You Probiotics

ซูเปอร์ เคลียร์ โปรไบโอ” Probiotics รูปแบบผง เก็บได้ในอุณหภูมิห้อง สามารถฉีกซองและรับประทานได้ทันทีโดยไม่ต้องผสมน้ำแล้วดื่มน้ำอุณหภูมิห้องตาม ช่วยปรับสมดุลลำไส้และระบบทางเดินอาหาร มาพร้อม Probiotics 7 สายพันธุ์วิจัย 100,000 ล้าน CFU ต่อซอง และพรีไบโอติกส์ 3 สายพันธุ์วิจัย โดยจุลินทรีย์นำเข้าจากประเทศอเมริกาและประเทศญี่ปุ่น ไม่มีส่วนผสมของนม น้ำตาลและไขมัน รสลิ้นจี่ ม็อกเทล รับประทานง่าย อร่อย

Probiotics 7 สายพันธุ์

  • B.BREVE B-3
  • L. Rueterri
  • L. Gasseri
  • L. Acidoophilus NCFM
  • B.Lactis Shape B420
  • L. Paracasei Lpc37
  • L. Phamnosus HN001

ซูเปอร์ เคลียร์ โปรไบโอ พลัส 3เอ็กซ์ 

ซูเปอร์ เคลียร์ โปรไบโอ พลัส 3เอ็กซ์” อาหารเสริมสำหรับผู้มีปัญหาขับถ่ายยาก สายแข็ง ภูมิคุ้มกันตก เป็น Probiotics รูปแบบผง เก็บได้ในอุณหภูมิห้อง สามารถฉีกซองและรับประทานได้ทันทีโดยไม่ต้องผสมน้ำ แล้วดื่มน้ำตาม มาพร้อมโพรไบโอติกส์ 7 สายพันธุ์วิจัย 100,000 ล้าน CFU ต่อซอง พรีไบโอติกส์ 3 สายพันธุ์วิจัย และโพสไบโอติกส์ 3 สายพันธุ์วิจัย โดยจุลินทรีย์นำเข้าจากประเทศอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี และเดนมาร์ก ไม่มีส่วนผสมของนม น้ำตาลและไขมัน รสส้มเหมือนวิตามินซี รับประทานง่าย อร่อย 

โพรไบโอติกส์ 7 สายพันธุ์วิจัย

  • B.Lactis (UABla-12)
  • L. Acidophilus (DDS-1)
  • L. Phamnosus (LGG)
  • B. Animalis (BB-12)
  • L.Salivarius
  • Enterococcus Faecium (P-DURA)
  • Saccharomyces Boulardii